รีเซต

แจ้งข้อหาตำรวจปืนโหด ยิงชายเมาคลั่งตาย สั่งย้ายไปประจำ เร่งสอบเอาผิดวินัยอาญา

แจ้งข้อหาตำรวจปืนโหด ยิงชายเมาคลั่งตาย สั่งย้ายไปประจำ เร่งสอบเอาผิดวินัยอาญา
มติชน
27 กรกฎาคม 2563 ( 14:16 )
140

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยความคืบหน้า เกี่ยวกับคดี ตำรวจเข้าระงับเหตุชายเมาคุ้มคลั่ง จนมีการทำร้ายร่างกายและ ชายเมาสุราถูกยิงเสียชีวิต ในพื้นที่ บ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ล่าสุดเกี่ยวกับการดำเนินคดี ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ให้สอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอน ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นในส่วนของญาติผู้ตายได้ นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา อายุ 58 ปี รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ โดยทางพนักงานสอบสวน ได้รับเป็นคดี พร้อมแจ้งขอกล่าวหาไว้เบื้องต้น คือ กระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งทางตำรวจนายดังกล่าวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ยังต้องรอสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังอยู่ช่วงการฟักฟื้นรักษาตัวจากบาดเจ็บถูกู้ตายฟันศีรษะ ในส่วนของพนักงานสอบสวนพิจารณา แล้วสามารถปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ต้องส่งฝากขัง รอขั้นตอนการสอบสวน นอกจากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการ ประจำที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินคดี

 

พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินคดี จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือ ญาติผู้ตายแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับตำรวจ ซึ่งจะต้องรอขบวนการสอบสวน รวมถึงรอการส่งศพผู้ตาย คือ นายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ไปชันสูตร แต่ติดช่วงวันหยุดยาว รอส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ที่จะถึง ซึ่งในส่วนของความผิดอื่นๆ จะต้องรอสรุปพยานหลักฐานสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ รวมถึงประเด็นของเจตนาฆ่าหรือไม่ รวมถึงกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จะต้องรอขั้นตอนการสอบสวน เพียงแจ้งข้อหาเบื้องต้นตามพยานหลักฐาน ในส่วนที่ 2 ทางตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาสำหรับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ในความผิด 2 ข้อหา คือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธมีด และข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เพราะมีพยานหลักฐาน ผู้ตายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และส่วนที่ 3 ทางตำรวจจะได้เข้าไปพูดคุยวางแนวทางการดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายในส่วนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ตำรวจจะต้องดูแล ไม่ว่าจะผิดหรือถูก เพราะเกิดความสูญเสีย

 

โดยทางตำรวจยืนยันขอให้ประชาชน มั่นใจในการทำงานของตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินคดี เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ถึงแม้คู่กรณีจะเป็นตำรวจ หรือชาวบ้าน จะต้องมีมาตรฐานในการดำเนินคดีเช่นกัน ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน หากพยานหลักฐานสรุปว่าตำรวจกระทำผิด จะต้องได้รับโทษเช่นกัน ซึ่งต้องรอขั้นตอนการดำเนินคดี ขอให้มั่นใจตำรวจทำงานเต็มที่ตรงไปตรงมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง