รีเซต

บิ๊กป้อม ลงพื้นที่อุทัยฯ มอบถังน้ำ 8 ใบ แก้ภัยแล้ง-บริหารจัดการน้ำ (คลิป)

บิ๊กป้อม ลงพื้นที่อุทัยฯ มอบถังน้ำ 8 ใบ แก้ภัยแล้ง-บริหารจัดการน้ำ (คลิป)
มติชน
21 มีนาคม 2565 ( 18:09 )
81

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่หอประชุมอำเภอบ้านไร่ ตำบลบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งในจังหวัด

 

 

โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กล่าวต้อนรับ และมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคกลาง และนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำเสนอการบริหารจัดการน้ำแล้งด้วยระบบน้ำบาดาล และ นายจามร เหล่าเมือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี รายงานสถานการณ์ แหล่งน้ำในจังหวัดอุทัยธานี โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรอุทัยธานี เขต 2 ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการและประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ

 

 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบาย พร้อมมอบถังน้ำให้แก่นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ก่อนเป็นประธานปล่อยแถวทีมดับไฟป่าและขบวนรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 สุพรรณบุรี นำน้ำดื่มสะอาด จำนวน 7,500 ลิตร ส่งมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน จากปัญหาภัยแล้งเป็นการเบื้องต้นแล้ว

 

 

โดย พล.อ.ประวิตร มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขการบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดภัยแล้งและเกิดความเดือดร้อนในด้านน้ำอุปโภค บริโภค ตลอดจนเร่งให้ดำเนินการบริหารจัดการในเรื่องของระบบประปาภูมิภาคให้เกิดขึ้นในจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งยังไม่มีในจังหวัด

 

 

พร้อมกล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องของปัญหาภัยแล้งและความเป็นอยู่ โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ รอบด้านให้อย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

 

 

จากนั้นในเวลา 16.00 น. พล.อ.ประวิตร และคณะ เดินทางไปเททองหล่อพระและถวายผ้าป่า ที่ วัดถ้ำเขาวง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ตามด้วยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ บ้านพุบอน หมู่ 5 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี มีสมาชิกเกษตรกร 7 ราย พื้นที่มากกว่า 120 ไร่ เกษตรกรปลูกพืช มันสำปะหลัง อ้อย กล้วย และลำไย มีปริมาณน้ำรวมไม่น้อยกว่า 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

 

 

ทั้งนีั จังหวัดอุทัยธานี มีพื้นที่อยู่ในลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำแม่กลอง และลุ่มน้ำสะแกกรัง มีแหล่งน้ำทั้งหมด 1,600 แห่ง มีแหล่งขนาดใหญ่ 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำทับเสลา และขนาดกลาง 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ปัจจุบันแหล่งน้ำทั้งหมดมีปริมาณน้ำใช้การ รวมอยู่ที่ 88 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 39% ซึ่งในงบประมาณแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2565 มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 32 โครงการ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ 3.52 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 14,055 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,378 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกันน้ำท่วม 95,000 ไร่ เช่น การก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งคลองโพ อำเภอสว่างอารมณ์ และการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนสว่างอารมณ์ ระยะที่ 2

 

 

นอกจากนี้ สทนช. ได้วิเคราะห์กลั่นกรองแผนงาน/โครงการสำคัญของหน่วยงานต่างๆ ที่สามารถดำเนินการได้ในปี 2566-2567 รวม 4 โครงการ ซึ่งหากหน่วยงานดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯ ห้วยขุนแก้ว การเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บอ่างฯ วังร่มเกล้า โครงการอ่างฯ ห้วยมอโค้ และการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ (RBF) จังหวัดชัยนาท และ จังหวัดอุทัยธานี ได้ตามแผน จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บได้ 474.78 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 10,500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 15,500 ครัวเรือน

 

ซึ่งปัจจุบันจังหวัดอุทัยธานี มีบ่อน้ำบาดาลที่สามารถใช้งานได้ จำนวน 1,579 แห่ง แบ่งเป็นบ่อน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร จำนวน 114 แห่ง และบ่อน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 1,465 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563-2565 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลช่วยเหลือประชาชนจังหวัดอุทัยธานีผ่านโครงการต่างๆ กว่า 22 โครงการ อาทิ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่หาน้ำยาก โครงการพัฒนาน้ำบาดาลด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ขนาดพื้นที่ 500 ไร่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาล เพื่อความมั่นคงระดับชุมชน เป็นต้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งด้านเกษตรกรรมและด้านอุปโภคบริโภค ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง