MTCลั่นดบ.ลดหนุนกำไร หวังรัฐเดินหน้ากระตุ้นศก.

#MTC #ทันหุ้น – MTC แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ยังคงเป็นไปตามแผน ตั้งเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อไว้ที่ 10-15% ส่วนดอกเบี้ยทิศทางลง ช่วยเพิ่มกำไรของ-ทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลงตาม มองปีนี้เป็นปีที่ท้าทาย โดยยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ด้านโบรกมองกำไรไตรมาส 3/2568 ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เคาะราคาเป้าหมาย 50.25 บาท

นายปริทัศน์  เพชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ, สินเชื่อโฉนดที่ดิน, สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อเช่าซื้อ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางแผนไว้ โดยได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อไว้ที่ 10-15% จากปี 2567 ที่มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 164,242 ล้านบาท ณ สิ้นสุดไตรมาส 2/2568 มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 175,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13% YoY

@ต้นทุนการเงินลดลง

ทั้งนี้ทิศทางดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลง โดยมองว่าเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทาย และการใช้กลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ยยังมีความเป็นไปได้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ในปีนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีที่จะทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ถ้าหากมีการลดดอกเบี้ย อาจช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทได้

โดย ณ ปัจจุบัน ต้นทุนทางการเงินของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 4.40%

ถ้ามีการปรับลดดอกเบี้ยลงจะใช้เวลาประมาณครึ่งปีถึงจะเริ่มเห็นผลกระทบต่อต้นทุนของบริษัท เพราะบริษัทยังมีเงินกู้เก่าที่ยังคงเหลืออยู่ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ต้นปีหน้า

ในส่วนของลูกหนี้จะได้รับผลกระทบทางตรง คือ ภาระหนี้ของลูกหนี้จะลดน้อยลง มีความกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และผลกระทบทางอ้อม คือ มีรายได้เพิ่มขึ้นและนำมาจ่ายภาระหนี้ที่มีกับเอกชนได้ดีขึ้น ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 6 เดือนกว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจน

@หวังมาตรการช่วยลูกหนี้

ขณะที่การประเมินตัวเลขสินเชื่อใหม่ทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีการหมุนเวียนของลูกค้ารายใหม่เข้ามา และลูกค้ารายเก่าออกไป รวมถึงมีการรีไฟแนนซ์ของลูกค้าปัจจุบันผสมผสานกัน ซึ่งยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากช่วงต้นปีต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ไม่ได้อยู่ในแผนการคาดการณ์ของบริษัท

อีกทั้งยังมีผลกระทบจากมาตรการทางภาษีนำเข้าสหรัฐ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าผลกระทบจากกลางปีนี้จนถึงปีหน้าจะเป็นอย่างไร ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งมีข้อดีคือมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็วและค่อนข้างราบรื่น โดยคาดการณ์ว่าภายใน 4-6 เดือนข้างหน้า รัฐบาลใหม่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ

ในส่วนมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ บริษัทได้เข้าร่วมมาตรการ “คุณสู้เราช่วย” และล่าสุดจะได้รับ Soft Loan มาซึ่งจะต้องเบิกจ่ายภายในปีนี้ ในการที่บริษัทช่วยเหลือเรื่องดอกเบี้ยให้กับลูกค้าของบริษัทที่เข้าร่วมมาตรการ “คุณสู้เราช่วย” ขณะที่มองว่า มาตรการพักหนี้ที่จะออกมาเป็นนโยบายที่ดีที่ช่วยประชาชน เพราะเมื่อประชาชนมีภาระหนี้สูง เศรษฐกิจจะไม่เติบโต เพราะประชาชนไม่ใช้จ่าย

@Q3/68 กำไรโตต่อ

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาด MTC จะมีกำไรไตรมาส 3/2568 ที่ 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น16.8% YoY และเพิ่มขึ้น 5.7% QoQ จากรายได้ดอกเบี้ยที่เติบโตตามการเติบโตของสินเชื่อและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าจะคาดว่ายังเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง

  ส่วนสินเชื่อของ MTC คาดว่าจะยังคงเติบโตได้โดดเด่นกว่าคู่แข่งได้ โดยคาดว่าจะเติบโตอีก 4% และทำให้สินเชื่อเติบโตจากสิ้นปี 2567 เพิ่มเป็น 10.9% TYD ในขณะที่ NPL อาจจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่การที่สินเชื่อยังโตโดดเด่นคาดว่าจะทำให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงได้อีก และจะเป็นการลดลง 9 ไตรมาสติดต่อกัน ยังแนะนำ “ซื้อ” คงประมาณการกำไรปี 2568 ไว้ที่ 6,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% YoY ให้ราคาพื้นฐานปี 2569 ที่ 50.25 บาท