รีเซต

กรุงศรี คาด กนง.ตรึงดอกเบี้ยทั้งปี กดเงินเฟ้อพุ่งร้อนแรง

กรุงศรี คาด กนง.ตรึงดอกเบี้ยทั้งปี กดเงินเฟ้อพุ่งร้อนแรง
มติชน
4 เมษายน 2565 ( 17:26 )
88

ข่าววันนี้ นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ  เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.46 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หลังซื้อขายในกรอบ 33.19-33.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ  ขณะที่ในเดือนมีนาคม เงินบาทอ่อนค่าลง 1.9% แต่แข็งค่าเล็กน้อยราว 0.1% ในไตรมาส 1/2565 ทางด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% ตามคาด เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรแต่แข็งค่าเทียบกับเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยูโรได้แรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกหลังการเจรจาสันติภาพรอบล่าสุดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่เงินเยนแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่ท่ามกลางทิศทางการดำเนินนโยบายที่แตกต่างกันมากขึ้นระหว่างธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยบีโอเจประกาศเข้าแทรกแซงตลาดบอนด์เพื่อรักษาเพดานและสกัดการพุ่งขึ้นของยิลด์พันธบัตรญี่ปุ่น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 10,563 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตรสุทธิ 294 ล้านบาท โดยมีตราสารที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติครบอายุ 4,258 ล้านบาท

 

นางสาวรุ่ง กล่าวอีกว่า นักลงทุนให้ความสนใจกับการเปิดเผยรายงานจากการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 15-16 มีนาคม ซึ่งเฟดเริ่มต้นวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ หลังยิลด์ระยะ 2 ปีสูงเกินยิลด์ระยะ 10 ปี ข้อมูลค่าจ้างเดือนมีนาคมสูงเกินคาด ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว ส่วนสถานการณ์การสู้รบในยูเครนและการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย รวมถึงการแพร่ระบาดในจีนอาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนได้เช่นกัน

 

นางสาวรุ่ง กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ทางด้านกนง. คงดอกเบี้ยด้วยเสียงเอกฉันท์เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยธปท. ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างมีผลกระทบในวงกว้าง แม้จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ดูแลเงินเฟ้อได้ แต่กนง. ยังไม่ต้องการนำมาใช้ในเวลานี้

 

“ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นเกิน 5% ในไตรมาสที่ 2 และ 3 ก่อน ที่จะลดลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2566  โดยผู้ดำเนินนโยบายจะติดตาม ปัจจัยส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อต่อไป  ซึ่งเป็นการสนับสนุนมุมมองหลักของกรุงศรี ว่ากนง. จะตรึงดอกเบี้ยตลอดปีนี้ ท่ามกลางการฟื้นตัวที่เปราะบางของอุปสงค์ในประเทศ และ หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาด การตัดสินใจด้านนโยบายจะเผชิญความท้าทายมากยิ่งขึ้น “นางสาวรุ่ง กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง