รีเซต

"น้ำท่วมภาคใต้" กดดัน SET ระยะสั้น "เอเชียพลัส" มองเสียหายระดับภาค

"น้ำท่วมภาคใต้" กดดัน SET ระยะสั้น "เอเชียพลัส" มองเสียหายระดับภาค
TNN ช่อง16
27 พฤศจิกายน 2568 ( 17:28 )
11

บล.เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หาดใหญ่ เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของภาคใต้ (อันดับ 1 ของภาคใต้ / อันดับ 14 ของประเทศ) มีมูลค่า GDP ราว 2.51 แสนล้านบาท โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้อ 1 เดือน คาดว่าจะเกิดความเสียหายราว 10,000-15,000 ล้านบาท (หอการค้าฯ ประเมินความเสียหายเฉลี่ยวันละ 1.5 พันล้านบาท)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง HIGH SEASON ของการท่องเที่ยวภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงที่ควรจะโกยรายได้เข้าประเทศ ทำให้เสียโอกาสในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในงวด ไตรมาส 4/68 อย่างไรก็ตามในมุมมองเปรียบเทียบ แม้มีโอกาสจะเสียหายหลักหมื่นล้าน แต่เมื่อเทียบกับน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ที่ WORLD BANK ประเมินไว้ถึง 1.44 ล้านล้านบาท ถือว่าสเกลความเสียหายครั้งนี้ยังจำกัดอยู่ในระดับภูมิภาค ไม่ใช่ระดับประเทศ

ขณะที่ในมุม SET INDEX น้ำท่วมใหญ่ปี 54 กดดันให้ SET INDEX ปรับตัวลงถึง -24% ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน เนื่องจากน้ำท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมหลักและกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ (เศรษฐกิจกรุงเทพฯ ใหญ่กว่าสงขลาถึง 25 เท่า) ดังนั้น แรงกดดันต่อ SET INDEX ในรอบนี้ คาดว่าจะเป็นเพียงแรงกดดันช่วงสั้นๆ เท่านั้น ไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นทำให้ตลาดพังทลายเหมือนปี 54 เนื่องจากพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ (กทม. และ EEC) ยังดำเนินการได้ปกติ

อย่างไรก็ตามในมุมของนักลงทุนก็คาดหวังให้คณะกรรมการนโยบายการเงินช่วยลดดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค.68 หรือช่วงต้นปี 69 เพื่อช่วยเหลือกลุ่ม SME และภาคครัวเรือนในพื้นที่ประสบภัย ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางอยู่ โดยสถิติย้อนหลังปี 2554-2555 เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ กนง. มีมติ ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง รวม 0.50% เพื่อลดต้นทุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการและกระตุ้นการฟื้นตัว ดังนั้นหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นสิ่งที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยและสร้าง SENTIMENT เชิงบวกต่อตลาดหุ้นได้

ขณะที่นักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หนุนเงินไหลเข้า ตลาดหุ้น EMERGING โดย เดือน พ.ย. เป็นเดือนที่ FUND FLOW ไหลเข้าหุ้นอินโดฯ 808 ล้านเหรียญ และ ฟิลิปปินส์ 109 ล้านเหรียญ มากสุดในปีนี้ หนุนดัชนีขยับขึ้นได้ดีเด่น 5.14% (MTD) และ 1.3% (MTD) ตามลำดับ ส่วนตลาดหุ้นไทยโชคร้าย มีประเด็นการเมือง น้ำท่วม เข้ามากดดันให้ FUND FLOW ไหลออกมากสุดในเอเชียใต้ -322 ล้านเหรียญ กดดันดัชนีย่อตัวลง -3.7%

มีกลุ่มหุ้นที่ย่อตัวแรงกว่าตลาดในเดือนนี้ (MTD) คือ PETRO -19.2% CONS -13.6% PKG -11.4% FIN -9.2% COMM -7.2% TOURISM -6.1% ETRON -6.1% CONMAT -6.1% MEDIA -5.8% ENERG -5.0% INSUR -4.4% FOOD -4.1% SET -3.7%

แต่ยังมีกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวได้ดีกว่าตลาดในเดือนนี้ (MTD) คือ HELTH -3.5% AGRI -3.2% PROP -2.4% TRANS -0.1% ICT 0.3% AUTO 0.6% PF&REIT 0.7% BANK 1.6%

แม้ตลาดหุ้นไทยจะถูกกดดันหนักในช่วงนี้ แต่หากมีสัญญาณน้ำท่วมลดลง กนง. มีโอกาสช่วยลดดอกเบี้ย น่าจะหนุนให้ตลาดหุ้นรีบาวน์ขึ้นได้เร็ว ระยะสั้นแนะหลบความผันผวนกับหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว HMPRO, BDMS, TRUE และสะสมหุ้นปันผลสูง SIRI, AP, ICHI, KBANK, KTB, ADVANC

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง