สรุปสถานการณ์ "แม่น้ำเจ้าพระยา" 25 ต.ค. ชาวผักไห่ยังอ่วมกว่า 6 พันหลังคาเรือน

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำต่ำกว่า 2,500 ลบ.ม.วันแรก

เมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา(25 ต.ค.) เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ได้ลดอัตราการระบายน้ำลงไปที่ 2,454 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นับเป็นการระบายน้ำต่ำกว่าระดับ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็นวันแรก ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่งแล้ว 59 เซนติเมตร และจะลดลงไปอีก 25 เซนติเมตรภายใน 24 ชั่วโมง  แต่ก็ยังคงมีการปักธงแดงเพื่อแจ้งเตือนสถาการณ์วิกฤต 

ประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อน ในอำเภอสรรพยา ที่ก่อนหน้านี้ต้องอพยพมานอนในเพิงพักชั่วคราวริมถนน ตอนนี้ระดับน้ำในพื้นที่ตำบลบางหลวง ได้ลดลงจนสามารถเดินเข้าออกบ้านพักได้แล้ว  ประชาชนบางส่วนจึงกลับเข้าไปล้างทำความสะอาดบ้าน และอยู่อาศัยได้ตามปกติ แต่ยังมีอีกหลายตำบลที่น้ำยังท่วมสูง เช่น ตำบลตะหลุก ตำบลหาดอาษา ตำบลโพนางดำ จึงมีประชาชนอีกกว่า 1,000 ครอบครัว ที่ยังต้องนอนในเต็นท์เพิงพักชั่วคราวต่อไปอีก ึาดว่าต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จึงจะสามารถกลับเข้าบ้านพักได้ 

 สวนกล้วย จ.อ่างทอง ยืนต้นตายหลังน้ำท่วม

ส่วนในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะ ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง  พื้นที่หมู่ 4 และหมู่ 5 ที่อยู่ลึกด้านใน แม้ตอนนี้ระดับน้ำจะเริ่มลดลง 5 เซนติเมตร แต่ก็ยังมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 แมตร  ต้องใช้เรือในการเดินทางเท่านั้น  

ขณะที่สวน กล้วยน้ำว้า เกือบทั้งหมด ของชาวบ้าน ภายในตำบลคลองวัว  กำลังยืนต้นตาย หลังแช่น้ำท่วมมานาน โดยสวนกล้วยของชาวบ้านที่นี่ ถือเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน โดยการตัดใบตองไปขาย แต่ตอนนี้รายได้หายไปกับน้ำท่วมทั้งหมด  ต้องรอน้ำลดอย่างเดียว และคาดว่า จะต้องปลูกกล้วยใหม่ทั้งหมด ชาวบ้านจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเยียวยา

น้ำทะลักท่วม อ.ผักไห่ จ.อยุธยา

ส่วนมวลน้ำที่ไหลจากจังหวัดอ่างทองไหล ก็จะมาท่วมในพื้นที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อ  แม้ว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะปรับลดปริมาณการระบายน้ำลงต่อเนื่อง แต่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ยังท่วมสูงในหลายพื้นที่ 

ที่อำเภอผักไห่ ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 14 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้ครับความเดือดร้อน 6,025 ครัวเรือน โดย ที่ตำบลลาดน้ำเต็ม ถูกมวลน้ำไหลที่ไหลบ่าทะลักแนวคันกั้นน้ำ มาจากจังหวัดอ่างทอง ทะลักท่วมชุมชน บ้านเรือน จนเต็มพื้นที่อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ชาวบ้านต่างเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก อย่างเช่น เกษตรกรที่ปลูกต้นโป้ยเซียน โรงเพราะชำถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตรครึ่ง จนต้นโป้ยเซียนที่เพราะพันธุ์ไว้ จมน้ำเสียหายกว่า 30,000 ต้น รวมมูลค่าประมาณ 600,000 บาท ทางสำนักงานเกษตรจังหวัด จึงแนะนำให้เกษตรกรถ่ายภาพความเสียหาเอาไว้ เพื่อนำไปยื่นเรื่องขอเยียวยา 

ภาพ ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค