ภูเขาไฟระเบิดที่ชวาตะวันออก พ่นเถ้าถ่านฝัง 11 หมู่บ้านดับแล้ว 13 รายเจ็บอีก 57 ราย
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ว่า สำนักงานบรรเทาวินาศภัยแห่งชาติ (บีเอ็นพีบี) ของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัย ต้องทำงานหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังจาก ภูเขาไฟ เซเมรู เกิดระเบิดขึ้นกะทันหัน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา
การระเบิดกะทันหันของภูเขาไฟเซเมรูซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะชวา ส่งผลให้ชาวบ้านหลายพันคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับภูเขาไฟต้องอพยพหนีกันอลหม่าน และหลายร้อยครอบครัวจำเป็นต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว
รายงานข่าวระบุว่า ภูเขาไฟเซเมรู พ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้ามหาศาลก่อนตกลงมาปกคลุม 11 หมู่บ้านของเมือง ลูมาจัง ในจังหวัดชะวาตะวันออก ของประเทศอินโดนีเซีย จนมิดหลังคาบ้าน และทำให้ปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้หายใจไม่ออกเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
นายอับดุล มูฮารี โฆษกของบีเอ็นพีบี ระบุว่า เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย โดยจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มมากขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่พบศพเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ในขณะที่สามารถช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ลูมาจังออกมาได้แล้ว 10 ราย นอกจากนั้นยังต้องให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 57 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบาดแผลไฟลวกที่ได้รับระหว่างการระเบิดของเซเมรู
ทางบีเอ็นพีบี ได้เร่งจัดส่งความช่วยเหลือไปให้กับประชาชนในที่หลบภัย โดยมีทั้งอาหาร, หน้ากากป้องกันและถุงนอน เป็นต้น
ทั้งนี้ เซเมรู เคยเกิดระเบิดครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 และนับแต่นั้นมาทางการก็จัดให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยระดับที่ 2 มาโดยตลอด ในขณะที่อินโดนีเซียเป็นชาติที่มีภูเขาไฟอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เกือบ 130 ลูก และเคยก่อให้เกิดวินาศภัยมาแล้วหลายครั้ง ครั้งหลังสุดคือการระเบิดของภูเขาไฟลูกหนึ่งซึ่งอยู่ในทะเลบริเวณช่องแคบระหว่างเกาะชวาและเกาะสุมาตรา แรงระเบิดทำให้เกิดแผ่นดินใต้น้ำถล่มและเกิดสึนามิขึ้นตามมาคร่าชีวิตคนไปมากกว่า 400 รายเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา