รีเซต

ประยุทธ์ แนะชาวบ้าน เลี้ยงไก่สัก 2 ตัว อย่าเพิ่งรีบฆ่า ตามหลักการ ‘ความพอเพียง’

ประยุทธ์ แนะชาวบ้าน เลี้ยงไก่สัก 2 ตัว อย่าเพิ่งรีบฆ่า ตามหลักการ ‘ความพอเพียง’
ข่าวสด
15 ธันวาคม 2564 ( 15:14 )
119
ประยุทธ์ แนะชาวบ้าน เลี้ยงไก่สัก 2 ตัว อย่าเพิ่งรีบฆ่า ตามหลักการ ‘ความพอเพียง’

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตรวจติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวทักทายประชาชนที่มาต้อนรับทันทีว่า อัสซะลามุอะลัยกุม ขอให้สันติเกิดขึ้นกับทุกคน

 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมจะนะว่า เช้าวันเดียวกันนี้ทำเนียบรัฐบาลได้จัดรถส่งพี่น้องเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นกลับไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อพี่น้องทุกคนจะได้ปลอดภัย ยืนยันว่าเข้าใจกันแล้ว วันนี้ถือว่ามารับฟังความก้าวหน้าในการดำเนินการและตนอยากสร้างแนวคิดใหม่ๆให้กับทุกคนเพื่อที่จะเดินหน้าไปด้วยกันได้ เวลาที่รัฐบาลมีดำริหรือนโยบายอะไรออกมาในส่วนของข้างล่างจะต้องร่วมมือกันทำงานให้ร้อยเรียงกันไปให้ได้ เราต้องบูรณาการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างจริงจัง ซึ่งทุกรัฐบาลต้องพยายามดำเนินการ แต่เท่าที่ดูไปได้ช้ามาก ส่วนตัวห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่

 

จึงขอย้ำไปถึงข้าราชการทุกหน่วยงานจะต้องไปดูระบบแผนที่เกษตรกรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) ซึ่งมีรายละเอียด มีตัวชี้วัดว่าพื้นที่ในจังหวัดเป็นอย่างไร ประชาชนเป็นอย่างไร มีความอ่อนไหวตรงไหน โดยเฉพาะในระดับที่ต่ำจะต้องเร่งพัฒนาให้ได้มากที่สุด และในเรื่องของ Agri-Map ทุกคนจะได้รู้ว่าเราควรจะปลูกพืชอะไร วันนี้จะปลูกพืชชนิดใดไม่ว่าแต่วันข้างหน้าต้องปรับเปลี่ยน เพราะถ้าทำอย่างเดิมอย่างเดียวปัญหาก็จะเป็นอยู่เช่นทุกวันนี้ เราต้องสร้างรายได้เพิ่มเติมมากกว่ารอผลตามฤดูกาลอย่างเดียว

 

สิ่งสำคัญคือการแก้ปัญหาหนี้สินทราบว่าทุกคนมีหนี้ ซึ่งตนไม่มีความสุขแต่เราต้องแก้ไขอย่างระมัดระวังอย่างที่สุด ทั้งข้อกฎหมายและบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอำนาจหน้าที่ เราต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจนเพื่อเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากภาคประชาชน เพราะทุกอย่างจะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งสิ้น หลายเรื่องเกิดมาทุกคนคงทราบดีว่าระยะเวลา 2-3 วันที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยืนยันว่าทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาในหลายๆเรื่อง ทั้งความยากจน หนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดกับคนทุกประเภทตราบใดที่เรายังมีรายได้น้อย เราต้องคิดและหาวิธีว่าทำอย่างไรจะมีรายได้ที่เพียงพอ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ตนกังวล ซึ่งต้องคิดและทำกันใหม่ ดังนั้นนโยบายต่อไปนี้การใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐจะต้องคุ้มค่าต้องมีตัวชี้วัดชัดเจน โครงการใดที่ไม่มีประโยชน์ให้เอามาทำโครงการที่มีประโยชน์ อย่างเช่นเรื่องการอบรมก็ทำกันมาเยอะแล้ว ต้องดูว่าอบรมแล้วไปทำประโยชน์จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ทำก็อย่าไปอบรมกันเลยเอาเงินตรงนั้นไปสร้างให้เขาเลยดีกว่า เพราะมันเสียทั้งประโยชน์และเวลา

 

“ทำอย่างไรจะลดรายจ่ายให้เขาได้ ไม่ต้องไปซื้อพืช ซื้อผัก ซื้อไก่ วันนี้ ถ้าทุกครัวเรือนเลี้ยงไก่สัก 2 ตัว อย่าเพิ่งฆ่ามันก่อน ให้มันโต ให้มันไข่ก่อนนะ ค่อยๆ ดูแลตัวเองอย่างนี้ ค่าใช้จ่ายจะน้อยลง ถ้าเราซื้อทุกอย่างเลยไม่ได้ เป็นไปตามที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ท่านทรงรับสั่งไว้เรื่องความพอเพียง” นายกรัฐมนตรี กล่าวแนะนำในช่วงหนึ่ง

 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มาดูงานด้านความมั่นคง สถิติความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นค่อนข้างลดลง แต่ยอมรับว่ายังมีอยู่ตราบใดที่ขบวนการเหล่านี้ยังไม่ยกเลิกหรือหมดไป เหตุการณ์ก็ยังมีอยู่แบบนี้ ทั้งหมดจึงต้องช่วยกันระมัดระวัง แจ้งเตือน ทั้งตัวเองและเจ้าหน้าที่ ประเด็นความมั่นคง สังคมจะช่วยได้มากต้องรู้จักสังเกตสถานการณ์ต่างๆ ไม่เช่นนั้นเราจะขาดความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่จะดูแลไม่ทั่วถึง ยืนยันว่าตนในฐานะนายกฯไ ม่เคยหยุดคิดตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกฯครั้งแรก สิ่งที่ต้องการคือทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีความสุข ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม สังคมจะต้องมีความเป็นธรรม มีพหุวัฒนธรรม ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

 

สิ่งเหล่านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงมีรับสั่งกับตนว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุข มีความพึงพอใจ ตนรับพระบรมราโชบายของพระองค์ท่านมาโดยตลอด และพยายามทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา บางอย่างก้าวหน้าไปไกลมากจนไปสู่อนาคตได้ แต่บางอย่างยังพันกับปัญหาเดิมๆ จึงจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายใหม่ในการทำงานต่อไปในปีงบประมาณ 2565 และสิ่งที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาได้ทั้งหมดทุกเรื่องประชาชนต้องมีส่วนร่วมโดยรัฐสนับสนุน

 

วันนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการการพัฒนาแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือน (กพจ.) จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อนำข้อมูลต่างๆที่มีอยู่มาบูรณาการซึ่งหลายคนได้มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างแล้ว บางคนมีทุนเพียงพอสามารถทำได้เลย แต่บางคนอาจต้องรอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งต้องมีการชี้เป้าเพื่อดำเนินการสำรวจในพื้นที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง