ส่องหุ้นเด่น รับผลบวก กระทรวงการคลัง เล็งขึ้นภาษี VAT 10%

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 10% นั้น เป็นหนึ่งในแนวทางตามแผนเพิ่มศักยภาพทางการคลัง ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (MTFF) ระยะ 5 ปี (ปี 2569-2573) ไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2568
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ต่างชาติ ทั้งนี้ ยอมรับว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน ยังไม่มีความพร้อมที่จะปรับขึ้นภาษี VAT
ดังนั้นรัฐบาลจะยังไม่ขึ้นภาษี VAT ในปี 2568 - 2569 เพราะตามกรอบเวลาในแผนดังกล่าว การปรับขึ้นภาษี VAT จะขยับเพิ่มจาก 7% เป็น 8.5% ภายในปี 2571 และจาก 8.5% เป็น 10% ภายในปี 2573
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินการประกาศแผนล่วงหน้า เป็นภาพเชิงบวกแผนการบริหารการคลังของประเทศ จะช่วยให้ผู้ประกอบการและประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมล่วงหน้า รวมถึงประเด็นฐานะการคลังที่มีความกังวลตลาดถึงความเสี่ยง Credit Rating ส่งบวกต่อหุ้นธนาคาร เเละธุรกิจเช่าซื้อ ได้เเก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB,ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) MTC, บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SAWAD (แนะนำเก็งกำไร)
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS มองว่า กระทรวงการคลัง ที่จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลงเหลือ 15% และปรับเพิ่มการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 7% ซึ่งข้อเสนอนี้มีแนวโน้มป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
โดยปกติแล้ว การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น มักจะมีผลดีต่อการใช้จ่าย ผลการดำเนินงานของธุรกิจ การจ้างงาน รวมถึงมุมมองของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้
โดยปกติแล้ว การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น มักจะมีผลดีต่อการใช้จ่าย ผลการดำเนินงานของธุรกิจ การจ้างงาน รวมถึงมุมมองของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้
อย่างในอดีตที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยมีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 30% เหลือ 23% ในปี 2555 (ก่อนปรับลงอีกเหลือ 20% ในปี 2556) ตลาดหุ้นไทยก็ดีดขึ้นราว 28.4% ในปีเดียวกันนั้น
และแม้ว่าการขึ้น VAT อาจมีผลเสียต่อการใช้จ่ายและเงินเฟ้อ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้รัฐบาลทดแทนรายได้ภาษีที่เสียไปจากภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลดลง เนื่องจากแหล่งรายได้ส่วนใหญ่ของรัฐบาลในปี 2567 มาจาก VAT (28%) และรายได้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้นนี้ก็มีโอกาสลดขนาดการขาดดุลและความเสี่ยงที่จะถูกปรับลด Credit Rating ซึ่งเป็นผลดีต่อมุมมองนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย
มองว่าการปรับโครงสร้างภาษี หากเกิดขึ้นจริง จะช่วย (1) หนุนกำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นประมาณ 6.25% หรือเพิ่ม EPS 6 บาทต่อหุ้น (2) เพิ่มอัพไซด์ให้ตลาดหุ้นไทยราว 100 จุด และ (3) ดึงดูดกระแสเงินลงทุนจากต่างชาติไหลทั้งทางตรงและทางอ้อม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
