กมธ.คมนาคม ชี้ 'หมอกระต่าย' ต้องไม่ตายฟรี ชงแยกใบขับขี่บิ๊กไบก์-ใช้กม.เป็นธรรม

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 27 ม.ค.65 ที่รัฐสภา นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่ตำรวจขับรถบิ๊กไบก์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ว่า เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เป็นเรื่องสำคัญที่กมธ.ทำมาตลอด และส่งให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ หากทำตามข้อเสนออุบัติเหตุครั้งนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้

ซึ่งแสดงถึงความล้มเหลวของการทำงานของหน่วยงานรัฐ ซึ่งตนเคยสูญเสียลูกชายจากอุบัติเหตุ กรณีที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดมาแล้ว ตนจึงเข้าใจดี และกรณีของคุณหมอกระต่าย ถ้าเกิดอุบัติเหตุจากการกระทำผิดคงไม่ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ อย่างไรก็ตาม การทำงานของกมธ.ฯ เราไม่ได้ทำงานตามกระแสสังคม แต่เราตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น จึงไม่อยากให้กรณีนี้เป็นไฟไหม้ฟาง ควรนำบทเรียนไปดำเนินการให้สำเร็จ ฝ่ายบริหารต้องร่วมมือกับฝ่ายนิติบัญญัติมากกว่านี้

นายโสภณ กล่าวต่อว่า จากการเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง อาทิ คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร ทางกมธ.จึงเห็นว่า

1.ปัญหาหลักคือจิตสำนึกจึงต้องทำควบคู่กับหลักกฎหมาย จึงเสนอให้เแก้ไขกฎหมายที่ใช้บังคับการใช้รถอย่างเป็นระบบ

2.บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ใช้กฎหมายไปถึงผู้กระทำความผิด โดยสัปดาห์หน้ากมธ.จะเชิญตัวแทนศาลมาให้ข้อสังเกตว่า ทำไมคดีที่ให้รอลงอาญาหรือมีการชดใช้ให้กับผู้เสียชีวิตแล้ว คดีนั้นจึงหายไป เพราะหากเป็นเช่นนั้นผู้กระทำผิดก็จะไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

3.รมว.คมนาคม ควรสั่งการให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการออกกฎหมายแยกประเภทใบขับขี่เฉพาะรถมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบก์ออกเป็นอีกประเภทหนึ่ง

4.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องดำเนินคดีนี้ด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะคดีนี้สร้างความเสียหายต่อสตช. และประชาชนมีความกังวลว่า จะช่วยเหลือกัน ซึ่งทางผบ.ตร.ควรสั่งการให้ใช้กฎหมายจราจรทางบกที่เกี่ยวข้องกับทางม้าลาย ที่มีหลายมาตราอย่างเคร่งครัด และขอให้เพิ่มการตัดแต้มใบขับขี่ที่สร้างความไม่ปลอดภัยกับประชาชนที่ใช้ทางม้าลาย

5.กรุงเทพมหานคร ควรติดตั้งสัญญาณไฟ เส้นจราจร ป้ายจราจรจำกัดความเร็ว เพื่อเพิ่มการเตือนแก่ผู้ใช้รถ และควรแก้ไข พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 43 มาตรา 46 และมาตรา 47 ร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีจราจร ที่อยู่ในขั้นตอนการร่างกฎหมายของสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อให้เกิดการแก้ไขกฎหมายทั้งระบบ

"กรณีนี้อย่าให้เป็นมวลล้มต้มคนดู ทางสตช.ต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ผมไม่อยากให้กรณีของหมอกระต่ายต้องเสียชีวิตฟรี และเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองสนใจคดีก็จะมีความเป็นธรรม" นายโสภณ กล่าว