ศบค. ห่วงลักลอบเข้าเมือง ขอผวจ.คาดโทษเป็นตัวอย่าง เตือน 3 จังหวัดโยงคลัสเตอร์โรงงาน

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)(ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ตามที่มีการรายงานข่าวตั้งแต่วานนี้(22พ.ค.) ที่มีการพบโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.351 ที่มีการระบาดในทวีปแอฟฟริกา ซึ่งมีการรายงานว่าพบใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จำนวน 3 ราย วันนี้กรมควบคุมโรครายงานต่อ ศปก.ศบค. ยืนยันเป็นทางการว่า พบจริง โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค จะเป็นผู้แถลงรายละเอียดในช่วงต่อไป
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 3,382 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,917 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 460 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมรวม 129,500 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย สะสม 776 ราย คิดเป็น 0.6% ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 2,131 ราย เหลือที่ยังรักษาอยู่ 44,189 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล(รพ.) 18,615 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 25,574 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 1,210 ราย ในจำนวนนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 412 ราย ขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 22 พ.ค. สะสม 2,865,091 โดส
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 5 ราย เป็นคนไทยมาจากกัมพูชา 1 ราย เดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง ที่ต้องเน้นย้ำคือ มาเลเซีย เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ เป็นการลักลอบเข้ามือง 4 ราย เป็นนักเรียน แม่บ้าน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้ามาเส้นทางเช่นนี้ เราเน้นย้ำเสมอว่า ต้องดูแลคนไทยทุกคนที่เข้ามา ไม่ว่าจะออกไปด้วยวิธีที่ถูกหรือผิดกฎหมาย แต่ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้อง โดยรายงานวันนี้ พบการลักลอบเข้ามา 241 ราย เป็นตัวเลขหลักสองร้อยกว่าราย มา 2 วันแล้ว ซึ่งที่ประชุม ศปก.ศบค. ที่มีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน เน้นย้ำการเพิ่มมาตรการ 2 ระดับ คือ 1.ฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ เพิ่มกำลังคน ใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น โดรน ตรวจสอบให้มากและถี่ขึ้น ตั้งด่าน 2-3 ชั้นในแนวชายแดน โดนที่พบการลักลอบมากขึ้นเพราะการตรวจสอบที่มากขึ้น 2.ฝ่ายมหาดไทย ดูแลจังหวัดชายแดน ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบพื้นที่ชั้นในที่มีการใช้แรงงานในอุตสาหกรรม ให้นำบทลงโทษมากำกับผู้ที่ลักลอบ และผู้นำพาเข้ามา เพื่อให้เป็นตัวอย่าง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด 10 จังหวัดแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร(กทม.) 983 ราย สะสม 33,745 ราย เพชรบุรี 968 ราย สะสม 2,327 ราย สมุทรปราการ 181 ราย สะสม 5,275 ราย นนทบุรี 107 ราย สะสม 5,355 ราย ฉะเชิงเทรา 103 ราย สะสม 697 ราย ชลบุรี 91 ราย สะสม 4,161 ราย ปทุมธานี 66 ราย สะสม 2,971 ราย สงขลา 59 ราย สะสม 2,171 ราย สมุทรสาคร 38 ราย สะสม 2,171 ราย และ สุราษฎร์ธานี 30 ราย สะสม 1,561 ราย
“วันนี้เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัด แซงจำนวนติดเชื้อในกทม.และปริมณฑล เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อใน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยให้นายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) และรองผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รายงาน สถานการณ์โรงงานแห่งหนึ่ง อ.เขาย้อย พื้นที่กว้างกว่า 200 ไร่ โดยมีแรงงานหมื่นกว่าคน ตรวจเชิงรุกพบการติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งนี้ แรงงานมีทั้งพักอาศัยรอบโรงงาน ทำให้มีความน่ากังวลว่าจะติดเชื้อคนรอบโรงงานด้วย ซึ่งนพ.สสจ. กำลังค้นหาเชิงรุกในชุมชน ขอให้ทุกคนร่วมมือกันมาตรวจหาเชื้อ และอีกแบบคือไปเช้า-เย็นกลับ จากการสอบสวนโรคพบ 3 จังหวัดที่ต้องสื่อสารถึง ได้แก่ ราชบุรี 481 ราย สมุทรสาคร 43 ราย และ สมุทรสงคราม 179 ราย รวม 703 ราย หากได้รับการติดต่อให้รีบเข้าไปตรวจหาเชื้อในสถานพยาบาลใกล้บ้าน เนื่องจากท่านเป็นกลุ่มเสี่ยง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวและว่า หากได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ประชาชน เราก็จะเห็นตัวเลขนี้อีกระยะหนึ่ง และต้องควบคุมให้ได้ 1-2 สัปดาห์
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
