CH รุกขนมเพื่อสุขภาพ ดันรายได้ปีหน้า 1.9 พันล้าน

#CH #ทันหุ้น – CH บอสใหญ่ “ศักดา ศรีแสงนาม” ลุยออกผลิตภัณฑ์ใหม่-ขยายตลาด ดันรายได้ปีหน้าแตะ 1.9 พันล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะทำได้ 1,700 ล้านบาท เล็งตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ พร้อมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

นายศักดา  ศรีแสงนาม  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เปิดเผยว่า เป้าหมายการเติบโตของปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 1,900 ล้านบาท หนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยอบกรอบภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty (by CH) ขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ

ประกอบด้วย 1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด กลุ่มผลไม้ชุบช็อกโกแลต และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แบรนด์ของบริษัทเอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในปี 2567 เพิ่มเติม รวมถึงเดินหน้าขยายตลาดใหม่ๆ

*รายได้ตามเป้า

ขณะที่รายได้รวมในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ 1,700 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรจะเติบโตประมาณ 3-5% โดยรายได้ในช่วง 9 เดือนเเรกอยู่ที่ 1,363.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 54.85 ล้านบาท โดยบริษัทมีโครงสร้างรายได้ในช่วง 9 เดือนเเรก แบ่งออกได้ 3 กลุ่มใหญ่ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง อยู่ที่ประมาณ 90% 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ปลากระป๋อง อยู่ที่ประมาณ 9.63% และ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ อยู่ที่ประมาณ 0.4% และรายได้อื่นๆ

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น โดยบริษัทคาดหวังว่าจากการที่รัฐบาลไทยประกาศนโยบายฟรีวีซ่า ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท ในช่วงไฮซีซันของปีนี้ จะส่งผลดีต่อรายได้ของแต่ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ก็ยังถือว่าไม่ได้มีการเดินทาเข้ามามากตามที่คาดไว้

บริษัทขณะเดียวกันบริษัทได้ยังได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดยกทัพผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งเข้าร่วมงาน PLMA's 2023 Chicago ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา และในเดือน ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้ออกบูธในงาน Anuga Food & Beverage Show 2023 Taste the Future เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ขยายฐานรายได้ และมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป

*อัพพอร์ตสินค้าสุขภาพ

ขณะที่ในอนาคตบริษัทคาดว่ารายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่กลุ่มบริษัท กำลังทำการตลาดอยู่อย่างต่อเนื่องโดยมีการเปิดร้าน KIOSK ใน SIAM PREMIUM OUTLET และ CENTRAL VILLAGE สุวรรณภูมิ เมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา

ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ก็ยังถือว่าจะเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทอยู่ แต่บริษัทมีแผนเปลี่ยนรูปแบบผลไม้อบแห้ง โดยจะมีการเพิ่มเป็นผลไม้อบกรอบ หรือรูปแบบอื่นๆ ที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง