โรงงานชี้แจง พนักงานหนุ่มถูกน้ำกรดแตกใส่ขา ดูแลอย่างดี
ปราจีนบุรี – ผู้จัดการโรงงานฯ ชี้แจงพนักงานหนุ่ม กรณีถูกน้ำกรดแตกใส่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่หนุ่มโรงงานถูกน้ำกรดแตกใส่ขา ขณะทำงานในโรงงานและถูกส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ. และออกมารักษาตัวอยู่ที่บ้านตามที่ได้เสนอข่าวก่อนหน้านี้ ปัจจุบันแผลยังน่าห่วง พ่อพาไปล้างแผลที่ รพ.สต.ทุกวัน ล่าสุด วันนี้บริษัทฯ ,ร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และประกันสังคมจังหวัด , อบต. , รพ.สต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่พบกับ นายปฏิภาณ เพื่อร่วมกันหาทางช่วยเหลือตามระเบียบ ซึ่งทางบริษัทฟ้าขวัญทิพย์ ที่พนักงานทำงานอยู่ ได้ทำหนังสือชี้แจงดังนี้ กรณีลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงานดังนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.63 เมื่อเวลา 15.20 น. นางสาวอังคณา ศิลา พนักงานห้องปฏิบัติการ(แลป)ทำขวดน้ำกรดกำมะถันแตกกระเด็นโดนตัวเองและเพื่อนร่วมงาน 2 คน คือ น.ส.สุณิสา ศรีคำ และนายปฏิภาณ จันทร์เชื้อ ทางบริษัทฯได้ส่งตัวพนักงานเข้ารักษาที่ รพ.กบินทร์บุรีตามสิทธิ์รักษากองทุนเงินทดแทน (กทม.44/กท.16) ดังนี้ น.ส.สุณิสา ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้ายหยุดงาน 3 วัน ตามใบรับรองแพทย์ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย.63 มาทำงานตามปกติ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 ,น.ส.อังคณา ได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ตามใบรับรองแพทย์วันที่ 31 พ.ค. – 30 มิ.ย.63 ยังหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านและไปหาหมอที่ รพ.ตามสิทธิ์การรักษา
ส่วนนายปฏิภาณ จันทร์เชื้อ ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและขาทั้งสองข้าง ตามใบรับรองแพทย์วันที่ 30 พ.ค.- 30 มิ.ย.63 ยังหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านไปหาหมอที่ รพ.ตามสิทธิ์การรักษา วันที่ 4 มิถุนายน 63 บริษัทพา น.ส.อังคณาและนายปฏิภาณไปดูอาการที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี วันที่ 6 มิถุนายน 63 บริษัทพา น.ส.อังคณาไปดูอาการที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรีวันที่ 8 มิ.ย.63 บริษัทพา น.ส.อังคณาไปดูอาการที่ รพ. กบินทร์บุรี วันที่ 15 มิ.ย.63 บริษัทพา น.ส.อังคณา ไปดูอาการที่ รพ.กบินทร์บุรี วันที่ 16 มิ.ย.63 ทางบริษัทฯได้แจ้งการประสบอุบัติเหตุต่อ สำนักงานประกันสังคม จ.ปราจีนบุรี และแจ้งสวัสดิการการคุ้มครองแรงงาน จ.ปราจีนบุรี (สปร.5) วันที่ 22 มิ.ย.63 ญาติและนายปฏิภาณตัดสินใจเดินทางไปรักษาตัวที่ รพ.จุฬารัตน์ 304 เนื่องจากกังวลใจว่า แผลจะติดเชื้อ โดยไม่มีการแจ้งให้ทางบริษัทฯ รับทราบ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ทาง รพ.เรียกเก็บจากคนไข้ ทางญาติจึงได้โทรแจ้งกลับมาให้ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ทาง รพ.เรียกเก็บ โดยทางญาติได้สำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อนและทางบริษัทฯทำเรื่องขอเบิกคืนให้ภายหลัง
และวันที่ 22 มิ.ย.63 บริษัทฯได้เดินทางไปที่บ้านของพนักงานทั้งสองคน เพื่อติดตามอาการและรับเอกสารใบเสร็จ ที่ทางญาติของ นายปฏิภาณ สำรองจ่ายไปก่อนเพื่อทำเรื่องเบิกที่สำนักงานประกันสังคม จ.ปราจีนบุรี ชี้แจงทางญาติของพนักงานกรณีรักษาพยาบาลโดยใช้สิทธิ์กองทุนทดแทน ,วันที่ 24 มิ.ย.63 บริษัทฯได้พานายปฏิภาณไปรักษาตัวที่ รพ.จุฬารัตน์ เพื่อทำการล้างแผลและทำเรื่องใช้สิทธิ์กองทุนทดแทน โดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลและได้แจ้งทางญาติว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.63 บริษัทจะประชุมร่วมกับคณะนายอำเภอกบินทร์บุรีและคณะกรรมการไตรภาคี จึงขอให้ญาติพาไป รพ.ด้วยตัวเอง 24 มิ.ย.63 รพ.จุฬารัตน์ 304 นัดนายปฏิภาณเข้ารับการผ่าตัด(วงเงินกองทุนเงินทดแทนเพราะวงเงินรักษา 50,000 บาท ทาง รพ.ทำเรื่องส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทางญาติได้พาไปรักษาที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรและแพทย์นัดให้มาดูอาการอีกทีในวันที่ 1 ก.ค.63 , วันที่ 25 มิถุนายน 63 บริษัทแจ้งคำขอรับเงินทดแทนที่สำรองจ่ายคืนต่อ สนง.ประกันสังคม ที่ทางญาติได้สำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อนเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.63 วันที่ 26 มิ.ย.63 อยากได้ปรึกษาทาง สจ.ประยูร สมโภชน์ และเดินทางเข้ามาพูดคุยที่บริษัท เพื่อหาแนวทางการรักษาต่อ สรุปทางบริษัทรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลตามจริงจนกว่าพนักงานจะหายดี โดยให้ทำการรักษาที่รพ.ของรัฐ ,รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ส่วนวันที่ 26 มิ.ย.63 บริษัทพาไปดูอาการที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เนื่องจากพนักงานแจ้งว่า ปวดแผลมาก แค่แพทย์ทำการรักษาพร้อมให้ยากลับมาทานที่บ้านและให้มารักษาตามแพทย์นัดในวันที่ 1 ก.พ.64 , วันที่ 29 มิ.ย.63 พา น.ส.อังคณาไปรักษาตัวที่ รพ.กบินทร์บุรีตามแพทย์นัดวันที่ 1 ก.ค.63 พานายปฏิภาณไปล้างแผลตามปกติที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยทางบริษัทได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลและแพทย์นัดดูอาการอีกครั้งในวันที่ 15 ก.ค.63 , วันที่ 2 ก.ค.63 พา น.ส.อังคณาไปรักษาตัวที่รพ.กบินทร์บุรี ตามแพทย์นัด ทั้งนี้บริษัทฟ้าขวัญทิพย์จำกัด ยังจ่ายค่าจ้างตามปกติในเดือนแรกที่พนักงานหยุดงานและทำเรื่องขอรับเงินชดเชยรายได้ กรณีที่พนักงานหยุดงานมา เนื่องจากการประสบอุบัติเหตุจากการทำงานต่อสำนักงานประกันสังคม
นายปัญญาพิสุท โชคชูธนา ผจก.โรงงานกล่าวสั้น ๆ ว่า ที่ผ่านมาเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เข้าใจผิดกันมา ทางญาติกังวลใจ ขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจดูแลพนักงานมาเป็นอย่างดี ขณะนี้บริษัทเสียหาย แต่ก็จะไม่ขอพูดอะไรอีก และหาทางออกร่วมกัน อยากให้แก้ข่าวให้บริษัทด้วยว่า ทางบริษัทไม่ได้ทอดทิ้งพนักงาน รักพนักงานเหมือนพี่น้องลูกหลานทุกคน ทางด้าน นางสาวพรวิไล มะลอย ประกันสังคมจังหวัด ปราจีนบุรี กล่าวว่า สิทธิลูกจ้างจะได้ค่ารักษาตัวนับตั้งแต่วันที่เป็นจนหาย ได้เงินทดแทนจากการขาดรายได้ในอัตรา 70 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง ตามที่หมอให้หยุดงาน
อย่างไรก็ตาม นางอรวรรณ สุขสมงาม น้าสาว กล่าวว่า ขอขอบคุณทางบริษัทและทุกหน่วยงานที่มาเยี่ยม และแนะนำถึงการรักษา ที่ผ่านมาพ่อและญาติมีความกังวลใจมาก คิดไปต่าง ๆ นานาต้องขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เดือดร้อน
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง