รีเซต

มทภ.4 แถลงผลจับไอซ์ 250 กก. ยึดทรัพย์ได้อีกเพียบ

มทภ.4 แถลงผลจับไอซ์ 250 กก. ยึดทรัพย์ได้อีกเพียบ
77ข่าวเด็ด
29 มิถุนายน 2563 ( 07:29 )
154
มทภ.4 แถลงผลจับไอซ์ 250 กก. ยึดทรัพย์ได้อีกเพียบ

มทภ 4 ร่วมหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าว ผลการจับกุมยาไอซ์ 250 กก. พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมาก

 


เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลา 10.05 น. ที่ ห้องรับประทานอาหารนายทหารสัญญาบัตร อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ. จตุพร กลัมพสุต ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าพล.ร.ต. สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติด (ยาไอซ์) พร้อมผู้ต้องหา หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 63 เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ติดตามบังคับใช้กฎหมายกับผู้ต้องหา จำนวน 1.ราย ทราบชื่อ นายกอเซ็ง เจะหะ อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.1 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1. (ยาไอซ์) น้ำหนัก 250 กิโลกรัม บริเวณด่านตรวจความมั่นคงบ้านควนมีด ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา

 


พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่สืบทราบว่าจะมีการขนส่งยาเสพติดในพื้นที่ จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สามฝ่ายเข้าดำเนินการติดตามจับกุม ซึ่งสามารถจับกุมนายกอเซ็ง เจะหะ ขณะขับรถบรรทุกสิบล้อหมายเลขทะเบียน 70 – 1693 ยะลา พร้อมซุกซ่อนยาไอซ์บริเวณกระบะท้าย เข้ามายังด่านตรวจความมั่นคงบ้านควนมีด ซึ่งมีลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถพร้อมทำการตรวจสอบโดยละเอียด พบถุงปุ๋ยสีขาวจำนวน 12 กระสอบ ข้างในบรรจุยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 250 กิโลกรัม จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อสอบสวนขยายผล เชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ผลจากการซักถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าไอซ์ดังกล่าวเป็นของตนเอง มีนายมะดิง รูเป๊ะ เป็นผู้ว่าจ้าง โดยไปรับยาไอซ์ มาจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี


“ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 63 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายกอเซ็ง ผู้ต้องหามาควบคุมตัวที่ ฉก.ทพ.46 เพื่อดำเนินการขยายผลในการจับกุม นายมะดิง รูเป๊ะ ตามที่ให้การซัดทอด โดยได้ให้ นายกอเซ็งฯ ติดต่อกับ นายมะดิงฯ เพื่อรับส่งยาเสพติด และให้ติดต่อกับบุคคลที่เรียกว่า บาบอ ทราบชื่อภายหลังคือ นายยูโซ๊ะ กามา และได้นัดหมายรับยาเสพติดบริเวณแยกลำพู อ.เมือง จ.นราธิวาส และในเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายยูโซ๊ะฯ ได้ในขณะที่มารับยาเสพติดในบริเวณดังกล่าว และได้นำตัวไปตรวจค้นบริเวณบ้านพัก เลขที่ 70 ม.5 ต.ลำพู อ.เมือง จ.นราธิวาส ผลการตรวจค้นพบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบหนึ่งรายการ คือ รถยนต์มิตซุบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆก 4139 กทม. จากนั้นเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 63 เวลา 23.15 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม นายมะดิง รูเป๊ะ ที่อยู่ 68/1 ม.12 ต.ลำไพ อ.เทพา จ.สงขลา ขณะกำลังจะหลบหนีได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 16/5 ม.4 ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส หลังจากจับกุมได้ทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านภรรยาคนที่ 1 ของนายมะดิง ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมจึงได้ทำการตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐาน ที่เกี่ยวข้อง และตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 1434 นราธิวาส จำนวน 1 คัน รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีดำ หมายเลขทะเบียน 8 กด 4051 นราธิวาส จำนวน 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 บัญชี โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง สร้อยข้อมือลักษณะคล้ายทองคำ จำนวน 2 เส้น” พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน กล่าว


ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังกล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 63 เวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ม.1 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านภรรยาคนที่ 2 ของนายมะดิง ได้ทำการตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องและเข้าตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ จำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี โฉนดที่ดิน จำนวน 1 ฉบับ อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ CZ Compact (ไม่มีทะเบียน) จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด ในวันเดียวกัน เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 36/4 ม.1 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาว นุรซุรีซาฯ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม จึงได้ทำการตรวจสอบเก็บข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องและเข้าตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ จำนวน 7 รายการ ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทาแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฐ 3361 นราธิวาส จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 1 กฎ 674 นราธิวาส จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บจ 4064 นราธิวาส รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน 6361 สงขลา รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซุบิชิ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ 7487 นราธิวาส สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 บัญชี


พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเครือข่ายกลุ่มนี้ เป็นเครือข่ายยาเสพติดที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ทำการสืบสวน และมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดทางภาคใต้ที่มีข้อมูลอยู่ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีสถานการณ์โควิด 19 ระบาด มีการออกมาตรการ ล๊อกดาวว์ปิดด่านพรมแดนระหว่างประเทศของรัฐบาล ซึ่งทำให้นักค้ายาเสพติดได้หันไปส่งยาเสพติดทางระบบโลจิสติกส์ และเมื่อสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายลง การขนส่งมีความสะดวกขึ้น ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงได้เพิ่มความเข้มข้น และให้ความสำคัญในการสกัดการลำเลียงยาเสพติด และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบรถในกลุ่มเป้าหมายมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว จึงทำการสืบสวนและติดตามจนนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เคยต้องโทษในคดียาเสพติด โดยได้รู้จักกัน ในเรือนจำสงขลาและเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 5 ปี และเมื่อออกจากเรือนจำก็ยังมีการกระทำความผิดซ้ำแบบเดิมอีก


“พฤติการณ์กลุ่มนักค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ จะใช้รถบรรทุกขึ้นไปรับยาเสพติดและลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ปริมณฑลเพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยรับค่าจ้างครั้งละ 1 ล้านบาท จากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 สามารถขยายผลนำไปสู่การยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท โดยมีทั้งรถยนต์ รถบรรทุก โฉนดที่ดิน ทองคำ โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบการได้มาซึ่งทรัพย์สินและขยายผลเส้นทางการเงินของกลุ่มนี้ต่อไป ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ให้หมดสิ้นไป รวมถึงมาตรการทางกฎหมายกับผู้ค้ารายใหญ่ จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ ควบคู่กับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด โดยจัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน เข้าพบปะผู้นำสี่เสาหลักเพื่อขอความร่วมมือในการชักชวนผู้ติดสารเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพอย่างต่อเนื่อง หากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสยาเสพติด หรือผู้ต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-173-2999 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” มทภ 4 กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง