สิงคโปร์ยึดทรัพย์คดีฟองเงินโยง Prince group ในกัมพูชา มูลค่าหลายร้อยล้าน

ตำรวจสิงคโปร์ได้ยึดและออกคำสั่งห้ามจำหน่ายทรัพย์สินทางการเงินมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 3,725 ล้านบาท (ประมาณ 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนคดีปลอมแปลงเอกสารและฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับ Prince Holding Group ของกัมพูชา และเฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้งบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินที่ถูกยึดรวมถึง อสังหาริมทรัพย์ 6 แห่ง, บัญชีธนาคาร, บัญชีหลักทรัพย์ และเงินสด
สำนักงานตำรวจสิงคโปร์ หรือเอสพีเอฟ (SPF) ระบุในแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (31 ตุลาคม) ว่า “ทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น เรือยอชต์, รถยนต์ 11 คัน และสุราหลายขวด ก็ถูกออกคำสั่งห้ามจำหน่ายเช่นกัน” ตำรวจระบุว่า ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในหลายพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับเฉินและพวกพ้องของเขาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมเสริมว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในสิงคโปร์ในขณะนี้
เฉิน วัย 38 ปี เพิ่งถูกตั้งข้อหาในสหรัฐฯ ฐานเป็นผู้วางแผนการหลอกลวงสกุลเงินดิจิทัลครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับค่ายบังคับใช้แรงงานในกัมพูชา
ตามเอกสารฟ้องร้อง บริษัทปริ้นซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ได้สร้างค่ายอย่างน้อย 10 แห่งในกัมพูชา ซึ่งแรงงาน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติที่ถูกกักขังโดยไม่สมัครใจ ถูกบังคับให้ติดต่อเหยื่อหลายพันคนผ่านโซเชียลมีเดียหรือแอปแชต เพื่อสร้างความไว้วางใจและชักชวนให้เหยื่อโอนเงินคริปโต โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง
ตำรวจสิงคโปร์ (SPF) ระบุว่า หน่วยงานได้รับข้อมูลข่าวกรองทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ เฉิน จื้อ และเครือข่ายของเขา จากสำนักงานรายงานธุรกรรมต้องสงสัย (Suspicious Transaction Reporting Office) ในปี 2567 เจ้าหน้าที่จึงเริ่มการสอบสวนและได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูลและความช่วยเหลือ เนื่องจากกิจกรรมอาชญากรรมดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นในต่างประเทศ
ต่อมา เมื่อหน่วยงานทางการของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเฉินและปริ้น กรุ๊ป เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ตำรวจสิงคโปร์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานสมาชิกในเครือข่ายประสานงานและความร่วมมือคดีต่อต้านการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering Case Coordination and Collaboration Network) เพื่อผลักดันการสอบสวนให้คืบหน้า ซึ่งนำไปสู่ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
บริษัทปริ้นซ์ โฮลดิง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ดำเนินกิจการในหลายภาคส่วน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์, บริการทางการเงิน และธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม หน่วยงานทางการของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร ได้ประกาศคว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคลจำนวน 146 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกับปริ้นซ์ กรุ๊ป โดยระบุให้กลุ่มดังกล่าวเป็น “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และกล่าวหาว่า ปริ้นซ์ กรุ๊ป มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การหลอกลวงการลงทุนออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ที่มุ่งเป้าเหยื่อทั่วโลก
ในจำนวนผู้ที่ถูกคว่ำบาตรนั้น มีชาวสิงคโปร์ 3 คน และนิติบุคคลที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ 17 แห่ง รวมอยู่ด้วย ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับปริ้นซ์ กรุ๊ป และเฉิน จื้อ หนึ่งในผู้ถูกคว่ำบาตรได้ ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่ง หลังจากมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตร
เฉิน ซึ่งเป็นประธานผู้ก่อตั้งกลุ่มปริ้นซ์ โฮลดิง กรุ๊ป เกิดในประเทศจีน และถือสัญชาติกัมพูชาและอังกฤษ เขาถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาในคดีฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ (wire fraud) และสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน รวมถึง การบริหารจัดการค่ายหลอกลวงแรงงานบังคับในกัมพูชา
รัฐบาลสหรัฐฯได้ยึดบิตคอยน์มูลค่ากว่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในคดีที่เฉินถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการหลักของโครงการหลอกลวงสกุลเงินดิจิทัลครั้งใหญ่ ผู้ต้องหาสองสัญชาติรายนี้ พร้อมด้วยผู้สมรู้ร่วมคิดที่ยังไม่ถูกเปิดเผยชื่อ ถูกกล่าวหาว่าได้ใช้แรงงานบังคับในการหลอกลวงนักลงทุน โดยอ้างถึงโอกาสในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงินคริปโต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
