‘กลินท์’ ประเมินหลังคลายล็อกดาวน์ เงินสะพัดกว่า 2.7 แสนลบ. เชื่อหยุดยาวคนเดินทางหนาแน่น
‘กลินท์’ ประเมินหลังคลายล็อกดาวน์ เงินสะพัดกว่า 2.7 แสนลบ. เชื่อหยุดยาวคนเดินทางหนาแน่น
นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์หลังคลายล็อกดาวน์แล้ว ประเมินว่าจะมีการจับจ่ายใช้สอย และสร้างเม็ดเงินสะพัดเพิ่มมากขึ้นกว่า 2.7 แสนล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากการบริโภคและอุปโภคของประชาชน เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ก็น่าจะอยู่ในระดับดังกล่าวได้ ส่วนสถานการณ์ในภาคการท่องเที่ยวไทย ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ เพราะยังเร็วเกินไป รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ จะสามารถเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อได้หรือไม่ ยังต้องรอประเมินผล หลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน และมีการเดินทางมากหรือน้อยเท่าใด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนออกมาแบบเป็นรูปธรรมมากขึ้นได้
“ภาพตอนนี้ยังไม่ชัดเจนมากนัก การคาดการณ์ประเมินเกี่ยวกับภาคการส่งออก จึงยังไม่สามารถทำได้ สำหรับภาคการส่งออก แม้จะคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่ทิศทางยังดูไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งก็ได้หารือร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่น ถึงความต้องการว่า หากนักลงทุนญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในประเทศ ต้องการอะไรบ้าง โดยจากการประเมินเบื้องต้นก็พบว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกๆ ที่นักลงทุนจากญี่ปุ่นต้องการเข้ามาลงทุน” นายกลินท์กล่าว
นายกลินท์กล่าวว่า สำหรับวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนออกเดินทางจำนวนมาก ทั้งการกลับภูมิลำเนา หรือเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยว ส่วนการใช้จ่ายของประชาชน คาดว่าจะยังคงชะลอการใช้จ่าย หรือใช้จ่ายไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถจบได้ตอนใด รวมถึงยังไม่กล้าใช้จ่ายกับเรื่องท่องเที่ยวมากนัก ส่วนการเดินทางที่จะเพิ่มมากขึ้นนั้น อยากให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในพื้นที่แออัด และล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดหรือเจลแอลกอฮอล์
นายกลินท์กล่าวว่า นอกจากนี้ หอการค้าไทยได้ร่วมกับสยามพารากอน จัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย คือไทยเท่ @ ยิ้มไปด้วยกัน” โดยเป็นการรวบรวมผลไม้และของดีประจำจังหวัดจาก 5 ภาคทั่วประเทศ จากผู้ประกอบการจำนวนกว่า 160 ราย ส่งตรงจากสวน และแหล่งผลิตมาจัดจำหน่าย ระหว่างวันที่ 2-26 กรกฎาคมนี้ ที่พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยผู้ประกอบการสามารถนำสินค้ามาจำหน่ายได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยเชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยกระจายรายได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งในส่วนของการหมุนเม็ดเงินให้ผู้ประกอบการ และกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค