รีเซต

'อนุทิน' ลงพื้นที่จ.ระนอง ดูแนวทางรับมือโควิด-19 พร้อมปลุกประชาชนตั้งการ์ดรับมือโควิดระบาดเมียนมา

'อนุทิน' ลงพื้นที่จ.ระนอง ดูแนวทางรับมือโควิด-19 พร้อมปลุกประชาชนตั้งการ์ดรับมือโควิดระบาดเมียนมา
มติชน
6 กันยายน 2563 ( 13:34 )
183
'อนุทิน' ลงพื้นที่จ.ระนอง ดูแนวทางรับมือโควิด-19 พร้อมปลุกประชาชนตั้งการ์ดรับมือโควิดระบาดเมียนมา

‘อนุทิน’ ลงพื้นที่จ.ระนอง ดูแนวทางรับมือโควิด-19 พร้อมปลุกประชาชนตั้งการ์ดรับมือโควิดระบาดเมียนมา

เมื่อวันที่ 6 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ อสม. และประชาชน ได้ร่วมกิจกรรมส่งมอบพื้นที่จากกรมทางหลวงระนอง ให้โรงพยาบาล จ.ระนอง ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หลังจากนั้น ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล จ.ระนอง

ขณะปฏิบัติภารกิจ นายอนุทิน กล่าวว่า จากการที่ประเทศเมียนมา พบการระบาดของโรคโควิด-19 ย่อมสร้างความน่ากังวลใจให้กับชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวระนอง ที่มีพื้นที่จังหวัดติดต่อกับเมียนมา เป็นทางยาว การลงพื้นที่มาครั้งนี้ ก็เพื่อมาดูความพร้อม ในแผนการรับมือกับสภาวะโรคระบาด หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะต้องจัดการอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่า มีความสามารถในการจัดการปัญหา ไม่ให้ลุกลามบานปลาย

สิ่งที่น่าชื่นชมคือพ่อแม่พี่น้องคนไทย ยังตั้งการ์ดอยู่เสมอ ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ ถือเป็นวัคซีนที่ที่สุด ในยามนี้ ส่วนใครที่การ์ดตกบ้าง ก็ขอให้กลับมาตั้งการ์ดสูง เพราะเรื่องโรคระบาด ประมาทกันไม่ได้ การป้องกันตัวเอง มิได้เพียงป้องกันโรคโควิด แต่ยังช่วยป้องกันโรคในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ด้วย ผลที่ตามมาคือคนไทยสุขภาพแข็งแรง และภาครัฐยังประหยัดงบประมาณในการรักษาเป็นจำนวนเงินมหาศาล

สำหรับพี่น้อง อสม.ที่ทำงานหนักมาตลอดหลายเดือน เสียสละทั้งเวลา ทั้งทรัพย์ ในการควบคุมโรค เป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยเสมอมา ภาครัฐ เห็นความสำคัญ และได้ผลักดันค่าตอบแทนพิเศษ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานหนัก วันที่ 21 กันยายน 2563 จะมีการทยอยโอนค่าตอบแทนพิเศษเข้าบัญชีของท่าน เบ็ดเสร็จรวมเป็นเงิน 3500 บาท ซึ่งในอนาคต หากการระบาดของโควิด-19 ยังดำเนินต่อไป การช่วยเหลือเพิ่มเติมจะมีมาอย่างแน่นอน
ในเรื่องกัญชาทางการแพทย์ ที่มีการถามเขามามากเรื่องนโยบาย 6 ต้น ทางกระทรวงสาธาณสุข มองไกลกว่านั้นแล้ว เพราะกำลังเสนอกฎหมาย ให้ปลูกได้มากกว่า 6 ต้น หากเป็นไปเพื่อการรักษาพยาบาล หรือปลูกเพื่อการแพทย์ ขณะนี้ กฎหมายบางฉบับผ่านคณะรัฐมนตรี กฎหมายบางฉบับเข้าสภาไปแล้ว นโยบายนี้ มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง