นายกฯ นำครม.ใหม่ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณวันนี้ ก่อนประชุมนัดแรกทันที

ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมนำ ครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในเวลา 18.00 น. วันนี้ (24 ก.ย.) สำหรับกำหนดการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ของ ครม.ชุดใหม่  สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งขั้นตอนให้รัฐมนตรีรับทราบขั้นตอนและลำดับพิธีการ โดยนัดหมายพร้อมกัน ที่ตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจโควิด-19 ด้วย ATK ในเวลา 14.00 น.

จากนั้นรัฐมนตรีใหม่ถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวรัฐมนตรี และถ่ายภาพหมู่ ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขึ้นรถตู้ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) จัดเตรียมไว้ เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน

เมื่อจบขั้นตอนพิธีการ นายกรัฐมนตรี นัดคณะรัฐมนตรี ประชุม ครม.นัดแรกทันที ที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 โดยวาระที่จะเสนอให้ ครม.เห็นชอบ อาทิ การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา การแบ่งงาน และมอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลและร่วมเป็นคณะกรรมการชุดต่างๆ รวมถึงแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองที่สำคัญ  

ขณะที่นายอนุทินกล่าวว่า การประชุม ครม. นัดแรกห ลังเข้าเฝ้าฯ จะมีการนำเสนอร่างนโยบายให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งขณะนี้จัดทำเสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว เป็นเอกสารปกสีน้ำเงิน จากนั้นจะส่งให้สมาชิกรัฐสภาศึกษาเพื่อใช้ในการอภิปราย ส่วนวันแถลงนโยบายจะเป็นวันที่ 29 - 30 กันยายน 2568 หรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับประธานรัฐสภา โดยนายอนุทินระบุว่า "ยิ่งเร็วยิ่งดี" เพราะวันที่หนึ่งของการทำงานรัฐบาล จะเริ่มนับจากวันที่การแถลงนโยบายเสร็จสิ้น เพื่อให้สามารถเดินหน้าบริหารประเทศได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ร่างนโยบายรัฐบาลมีจำนวน 8 หน้า โดยเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจและปากท้อง , ความมั่นคงและปัญหาชายแดน ,  ปัญหาสังคม ภัยธรรมชาติและการเยียวยา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังเปิดเผยถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่  78  ว่า ได้มีการหารือรายละเอียดแล้ว ซึ่งจากการดูเวลาเกรงจะไม่ทันกับกรอบการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงตัดสินใจไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้  พร้อมเชื่อมั่นว่าจะไม่เป็นการเสียโอกาส ที่จะชี้แจงต่อผู้นำโลก ในประเด็นข้อขัดแย้งไทย-กัมพูชา เชื่อนานาชาติเข้าใจ    

อย่างไรก็ตาม  มีบรรยากาศ ที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงสายวานนี้   เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ ได้ขนโต๊ะรับแขก ของทำเนียบรัฐบาล ที่นำไปเก็บไว้ที่บ้านพิษณุโลก เข้าห้องทำงานของนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 4 ตึกบัญชาการ 1 

ขณะที่ช่วงบ่าย  นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าไปดูห้องทำงานที่ชั้น 2 ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเดิมเป็นห้องทำงานนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายพิชิต ลาออกจากตำแหน่งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกฯ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ นายนภินทร จะเดินทางมาถึงทีมงานได้นำของส่วนตัว อาทิ พระพุทธรูป ผ้ายันต์เจ้าคุณธงชัยอัดกรอบ ภาพวาดติดผนัง ขนขึ้นไปยังห้องทำงาน นายนภินทรด้วย   โดยบรรดารัฐมนตรีส่วนใหญ่ เข้ามาดูห้องทำงานและจัดห้องทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะวันนี้ (24 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกต่อไป