รีเซต

รวมรูปแบบตายตัวในการ์ตูนที่แฟนเรื่องนั้นแอบเห็นแต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน

รวมรูปแบบตายตัวในการ์ตูนที่แฟนเรื่องนั้นแอบเห็นแต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน
แบไต๋
22 พฤศจิกายน 2565 ( 16:33 )
69

เรียกว่ามีเรื่องราวให้หยิบมาพูดถึงได้ตลอดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในอนิเมะที่เราได้ดู เพราะความหลากหลายของเนื้อเรื่องและรูปแบบการนำเสนอที่อาจจะใช้รูปแบบคล้าย ๆ กันบ้างในบางครั้ง แต่บางอย่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจนเป็นที่นิยม และถ้าเราย้อนกลับไปดูอนิเมะสมัยก่อนมาจนถึงสมัยนี้ หลายเรื่องก็ยังคงอ้างอิงรูปแบบและการนำเสนอที่คล้าย ๆ กันอย่างน่าประหลาด จนหลายคนเรียกสิ่งนี้ว่ากฎของอนิเมะ ที่นักเขียนบังเอิญทำเหมือน ๆ กันโดยไม่ตั้งใจ ไปจนถึงบางอย่างที่มีเฉพาะในเรื่องตัวเอง ที่แบบเห็นอย่างนี้คนดูที่เป็นแฟนอนิเมะเรื่องนั้น ๆ จะอุทานออกมาว่า “นั่นแน่มันมาแล้ว” ระหว่างดู เมื่อเป็นอย่างนั้นเราเลยไปค้นหากฎแปลก ๆ ที่มีในอนิเมะต่าง ๆ มานำเสนอ ที่คนดูหลายคนจับทางได้ว่าถ้าตัวละครทำแบบนี้มันต้องเป็นอย่างนั้น หรือสิ่งนี้มันคือรูปแบบที่อนิเมะหลายเรื่องทำกัน จะมีกฎเรื่องราวแปลก ๆ อะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

ในเรื่อง Pokemon ใครกางมือก่อนคนนั้นเตียมตัวแพ้

เริ่มต้นเรื่องแรกก็ขอแสดงความยินดีกับเด็กชายผู้ออกจากบ้านไปถึง 25 ปี แต่ในอนิเมะเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่ปีกับ ซาโตชิ (Satoshi) ที่ได้แชมป์โลกการแข่งขัน ‘Pokemon’ อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่พลาดแชมป์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ในอนิเมะ ‘Pokemon’ ซึ่งก่อนจะมีการตัดสินกันในครั้งนี้ ก็มีการแข่งรอบคัดเลือกของเหล่า ‘Pokemon Masters’ จากทั่วโลกมาต่อสู้กัน เพื่อจะไปชิงแชมป์กับ แดนเด้ (Dande) ‘Pokemon Masters’ ไร้พ่าย ที่ก่อนการแข่งจะมีการพูดคุยและอวดสรรพคุณความเก่งของตัวเอง พร้อมกับท่ากางแขนของตัวละครในเรื่อง ที่แฟน ๆ ซีรีส์ ‘Pokemon’ ในอนิเมะจะรู้เลยว่าถ้าใครกางแขนก่อนสู้คน ๆ จะมีโอกาสแพ้สูงถึง 80% ซึ่งก่อนแข่งแดนเด้เราก็กางแขนแบบนี้ แฟน ๆ อนิเมะก็สามารถทำนายอนาคตได้ทันทีว่าแดนเด้ต้องแพ้แน่นอน (ซึ่งก็จริงอย่างที่แฟน ๆ คิด) เพราะก่อนหน้านี้ ‘Pokemon Masters’ คนอื่น ๆ ก็ทำแบบนี้แล้วก็แพ้หมด ที่ต้องเรียกว่าท่าอาถรรพ์ของซีรีส์นี้ก็ได้

ผู้ใช้เสียงเพลงในเรื่อง Saint Seiya จะเก่งโดดเด่นเกินเบอร์ทุกคน

เมื่อพูดถึงการ์ตูนลูกผู้ชายตัวจริงที่สู้กันด้วยกำปั้น กับพลังและความอึดถึกทนของอีกฝ่ายว่าใครจะทนมือทนเท้าได้นานสุดก็จะชนะ กับอนิเมะมังงะเรื่อง ‘Saint Seiya’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มทั้ง 5 ที่อึดถึกทนระดับแมลงสาบ (นี่คือคำชมจากแฟน ๆ การ์ตูนเรื่องนี้) ที่เป็น ‘Saint’ ผู้ปกป้อง คิโด ซาโอริ (Kido Saori) ซึ่งเป็นเทพี อะธีน่า ‘Athena’ กลับชาติมาเกิด ที่ไม่ว่าทั้ง 5 คนจะโดนอัดโดนปล่อยพลังมากมายจนหัวทิ่มพื้นกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พวกเขาก็ยังลุกขึ้นแล้วโต้กลับได้ทุกครั้ง (สมชื่อแมลงสาบเพราะตายยาก) และนอกเหนือจากลูกพลังท่วงท่าที่เหล่าตัวละครปล่อยใส่กันแล้ว ถ้าตอนไหนที่มีตัวละครที่ใช้เครื่องดนตรีออกมา ตัวละครนั้นจะเก่งเทพกว่าคนอื่น ๆ แบบเกินเบอร์เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ‘Silver Saint’ ในตำนานที่มีพลังมากกว่า ‘Gold Saints’ อย่าง ไลรา ออร์ฟัส (Lyra Orphee) ที่ปรากฏตัวในภาค ‘Hades’ หรือจะเป็นตัวขโมยซีนอย่าง ไซเรน โซเรนต์ (Siren Sorrento) ก็โดดเด่นและเก่งกว่าชาวบ้านในภาค ‘Poseidon’ นี่ยังไม่นับเทพเจ้า อพอลโล (Apollo) ในภาค ‘Olympic’ กับ เบเนตนาช เอต้า มิเม่ (Benetnasch Eta Mime) จากภาค ‘Asgard’ ที่ทั้งหมดนั้นต่างเก่งโดดเด่นเสมอในเรื่อง (รูปประกอบเรียงตามรายชื่อที่ได้บอกไป) แต่สุดท้ายแม้พวกเขาจะเก่งแค่ไหนก็พ่ายให้กับแมลงสาบทั้ง 5 อยู่ดี (ก็พระเอกนี่ครับ)

Vegeta ชี้นิ้วใส่ตัวเองที่หมายถึงเขาจะแพ้แน่นอน

นอกจากท่ากางแขนของอนิเมะ ‘Pokemon’ แล้วก็ยังมีท่าอาถรรพ์เฉพาะบุคคลอยู่ด้วย กับกระสอบทรายแห่งจักรวาล ‘Dragon Baall’ ที่พี่เขามักจะเป็นตัวทดสอบพลังของตัวร้าย ก่อนที่พระเอกจะมาปราบในตอนหลัง กับเจ้าชายดาวไซย่าผู้อยู่กินกับภรรยาโดยที่ไม่ต้องไปออกหางานทำอย่าง เบจิต้า (Vegeta) จากซีรีส์ ‘Dragon Ball’ ที่เมื่อใดเราเห็นพี่เบจิต้าพูดอวดตัวเองและเอานิ้วโป้งชี้ใส่ตัวเอง (ตามรูป) เมื่อนั้นคนอ่านคนดูจะรู้ได้ทันทีว่าป๋าเบเราต้องลงไปนอนกองพื้นแน่นอน แต่ถ้าครั้งไหนพี่เขาไม่ชี้นิ้วใส่ตัวเองป๋าเบเราก็แค่แพ้เฉย ๆ แบบโดนอัดให้พอเป็นพิธี ซึ่งตอนที่เราเห็นชัดที่สุดก็ตอนที่ป๋าเบจิต้าเราได้กลายเป็นซูเปอร์ไซย่าครั้งแรก ป๋าแกก็ชี้นิ้วแบบนี้ก่อนจะโดนหมายเลข 18 อัดจนลงไปนอนกองพื้น (ที่มาของภาพ 18+ ในตำนาน) และในภาคล่าสุดของ ‘Draagon Ball Super’ ป๋าเขาก็ชี้นิ้วแบบนี้อีกครั้ง ต้องมารอดูว่าป๋าจะลงไปนอนกองพื้นไหมมาลุ้นกัน

ตัวละครสวมหน้ากากในซีรีส์ Mobile Suit Gundam ไว้ใจไม่ได้

เมื่อพูดถึงซีรีส์อนิเมะขับหุ่นในตำนานที่ยังคงออกภาคใหม่จนถึงตอนนี้ หลายคนน่าจะคิดถึงซีรีส์ ‘Mobile Suit Gundam’ ที่ตัวเนื้อเรื่องส่วนมากจะเกี่ยวกับสงครามระหว่างคนด้วยกัน โดยใช้หุ่นยนต์ที่ชื่อว่า ‘Gundam’ เป็นเครื่องมือในการทำสงคราม และอีกสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในซีรีส์นี้ที่เกือบทุกภาคต่อมี นั่นคือตัวละครที่สวมหน้ากากหรือแว่นตาเพื่อปกปิดตัวตนจากคนอื่น โดยมีพี่แดงแรงสามเท่าอย่าง ชาร์ อัสนาเบิล (Char Aznable) เป็นคนแรกที่เริ่มการใส่หน้ากากกับแว่นในซีรีส์นี้ จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องมีตัวละครใส่หน้ากากหรือแว่น จนถึงภาคล่าสุดอย่าง ‘Mobile Suit Gundam The Witch from Mercury’ หรือชื่อไทยอย่าง “โมบิลสูทกันดั้ม แม่มดจากดาวพุธ” ที่ก็มีตัวละครใส่หน้ากากปรากฏตัวออกมา ที่พอแฟน ๆ ซีรีส์นี้เห็นตัวละครสวมหน้าหรือแว่นตาแบบนี้ออกมา ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อย่าไปไว้ใจคนสวมหน้ากาก” เพราะตามประวัติศาสตร์ของซีรีส์นี้ตัวละครที่สวมหน้ากากกับแว่น มักจะเป็นฝ่ายตัวร้ายเสียส่วนมาก แต่ถ้าเป็นฝ่ายดีก็มักจะแอบแฝงบางอย่างที่ไม่น่าไว้ใจและส่งผลไม่ดีกับฝ่ายตัวเอก อย่างภาคแม่มดจากดาวพุธก็เริ่มมีกลิ่นแปลก ๆ ออกมาแล้วเกี่ยวกับการสร้างหุ่นในภาคนี้ ซึ่งถ้าใครที่เพิ่งมาดูอนิเมะซีรีส์นี้ก็จำไว้เลยนะว่า ตัวละครที่สวมหน้ากากกับใส่แว่นปกปิดตัวตนมักจะเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ (รวมถึงในชีวิตจริงด้วย)

Kamen Rider ที่เป็นผู้หญิงมักจะเสียชีวิต

ย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่ซีรีส์ ‘Kamen Rider’ หรือที่บ้านเราเรียกแบบไม่รู้ว่า “ไอ้มดแดง” ในสมัยนั้นเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งคือเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ที่ในยุคนั้นจะเป็นค่านิยมชายเป็นใหญ่ ที่มันก็ส่งผลมาถึงในการ์ตูนที่เราดูด้วย ซึ่งส่วนมากตัวละครหญิงจะเป็นเพียงผู้ช่วยหรือมาแค่ประกอบฉาก แต่ก็มีบางครั้งที่สาว ๆ เหล่านี้จะมีบทเด่นในการแปลงร่างเป็นไอ้มดแดงต่อสู้เคียงข้างพระเอก แต่สุดท้ายด้วยการเขียนบทแบบไหนก็ไม่ทราบ เพราะหลังจากที่มีตัวละครหญิงสาวแปลงร่างเป็นไอ้มดแดงได้ ไม่นานตัวละครนั้นจะเสียชีวิตทุกคน โดยไอ้มดแดงสาวคนแรกที่เสียชีวิตของซีรีส์นี้ก็คือ แท็กเกิล (Tackle) เธอปรากฏตัวออกมาในซีรีส์ ‘Kamen Rider Stronger’ และเสียชีวิตแบบไม่ฟื้นในเวลาต่อมา นับจากนั้นเป็นต้นมาสาว ๆ ที่แปลงร่างได้ทุกคนในซีรีส์นี้จะเสียชีวิตเกือบหมด จนมาถึงซีรีส์ ‘Kamen Rider Decade’ เป็นต้นมา ตัวละครหญิงที่แปลงร่างได้ก็ไม่มีใครตายอีกเลย นับเป็นหนึ่งในอาถรรพ์ที่น่าสงสารของ ‘Kamen Rider’ สาว ๆ ยุคก่อนต้องเจอ

เมื่อตัวละครแหกปากตะโกนจะมีโอกาสสำเร็จ 100%

ในส่วนของการแหกปากเชื่อว่าหลายคนน่าจะทราบกันอยู่แล้ว ว่าเมื่อใดที่ตัวละครร้องตะโกนแหกปากออกมาแบบสุดเสียง เมื่อนั้นฝ่ายตัวร้ายเตรียมตัวแพ้ได้เลย ซึ่งเราสามารถแบ่งแยกการออกแหกปากตะโกนออกมาได้ 3 อย่าง 1 คือการแหกปากเพื่อปลุกพลังเร่งพลัง แบบที่ตัวละครใน ‘Dragon Ball’ ทำกัน แต่ต้องเป็นการแหกปากแบบสุดเสียงอ้าปากแบบสุดกราม (แหกปากเบ่งพลังปกติไม่นับ) เพราะนั่นคือความโกรธแบบสุดขีดจนปลุกพลังที่หลับใหลในตัวให้ออกมา 2 การแหกปากร้องออกมาด้วยความโกรธสุดขีดเมื่อสิ่งที่รักถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา  เมื่อนั้นตัวละครจะแหกปากร้องออกมาพร้อมพลังอันยิ่งใหญ่ และ 3 แหกปากโวยวายที่เป็นความโมโหที่พร้อมเข้าไปบวกตลอดเวลา ซึ่งความสามารถนี้ (แหกปากแล้วเพิ่มพลัง) จะมีเฉพาะพระเอกกับฝ่ายตัวเอกเท่านั้นที่จะมี (น่าสงสารฝ่ายตัวร้ายที่ไม่มีอะไรแบบนี้) ที่พอเราเห็นท่าแหกปากของพระเอกในการ์ตูนก็เตรียมตัวปักธงชนะได้เลย

Hair of Death ทรงผมมรณะสำหรับคุณแม่

จากเนื้อหาทั้งหมดที่เรากล่าวมานั้นส่วนมากจะเป็นการแซวหรือพูดหยอกล้อของแฟน ๆ คนดูอนิเมะในบ้านเรา ที่พูดแซวกันเอาสนุกเพราะมีหลายอย่างที่ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แต่สำหรับทรงผมมรณะของคุณแม่ที่เรียกว่า ‘Hair of Death’ นั้นเป็นสิ่งที่คนดูอนิเมะต่างชาติเป็นคนค้นพบและเอามาพูดถึงมากมาย เพราะเมื่อมีคนไปค้นหาตัวละครคุณแม่หรือคนมัดผมพาดเอาไว้ที่ข้างหน้า (รูปประกอบด้านบนและล่าง) เมื่อใดตัวละครนั้นจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วทันที ยกตัวอย่าง ทริช่า เอลริค (Trisha Elric) คุณแม่ของสองพี่น้องนักเล่นแร่แปรธาตุใน ‘Fullmetal Alchemist’ ที่เสียชีวิตก่อนจะเริ่มเรื่องมาเสียอีก หรือจะเป็นคุณแม่ที่ถูกยักษ์กินอย่าง คาร์ล่า เยเกอร์ (Carla Jaeger) ที่ถูกยักษ์ซึ่งเป็นภรรยาหลวงของ กริช่า เยเกอร์ (Grisha Jaeger) กินทั้งเป็นใน ‘Attack on Titan’ และอีกหลาย ๆ คนที่ถ้าเอามาพูดถึงคงใช้เวลาทั้งบทความเลยทีเดียว จนหลายคนเรียกว่าเป็นทรงผมอาถรรพ์ของอนิเมะ ที่ไม่รู้ว่าคนวาดเขาจงใจใส่กันหรือเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่อาจรู้ได้

ทีมตัวละครสำเร็จรูปในอนิเมะที่ส่วนมากต้องมี

ปิดท้ายกับสูตรสำเร็จของเรื่องราวอนิเมะแบบเป็นทีม ที่ตัวละครต้องเดินทางไปพร้อม ๆ กันอย่างซีรีส์ ‘One Piece’ หรือ ‘Black Clover’ ทีมเหล่านี้มักจะประกอบไปด้วยพระเอกของเรื่องที่เป็นจุดศูนย์รวมของทุกคนให้มารวมกัน ตัวละครที่มีแววนางเอกหรืออาจจะเป็นสาวน้อยน่ารักประจำทีมที่อย่างน้อยต้องมี 2 คน นอกจากนี้ก็ต้องมีพระรองคู่แข่งพระเอกที่เก่งรองลงมา ที่ส่วนมากตัวละครนี้ในอดีตจะเป็นตัวร้ายมาก่อน และต้องมีสัตว์เลี้ยงที่เป็นตัวอะไรก็ได้มาอยู่ในทีม ที่ส่วนมากจะเป็นสัตว์ที่อยู่กับพระเอก นอกจากนี้ก็ต้องมีสาวน้อยตัวเล็กขี้โวยวาย หรือสาวน้อยที่ต้องได้รับการป้องป้องมาอยู่ในทีม ที่บางครั้งตัวละครนี้ก็จะอยู่กับตัวละครสัตว์เลี้ยง ส่วนตัวละครที่มีบ้างไม่มีบ้าง อย่างตัวละครสุดหล่อเข้มขรึมไม่ค่อยพูดและไม่ค่อยอยู่ในทีม แต่พอทีมมีปัญหาตัวละครนี้จะปรากฏตัวออกมาช่วยยามคับขันเสมอ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปหาดูแล้วจะรู้ว่าเกือบทั้งหมดจะออกแนว ๆ นี้ทั้งสิ้น

ก็จบกันไปแล้วกับรวมรูปแบบตายตัวในอนิเมะที่คนดูแอบเห็น ที่เรารวบรวมมาเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน ที่ต้องอธิบายก่อนว่ากฎหรืออาถรรพ์พิเศษในอนิเมะที่เราเอามานำเสนอนั้น มันเป็นเพียงแค่รูปแบบที่คนดูอนิเมะเอามาพูดเล่น ๆ กันแบบสนุก ๆ ไม่ใช่เรื่องจริงจังที่ต้องไปคิดวิเคราะห์แยกแยะแบบจริงจัง แล้วมาบอกว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องนี้ไม่มีตัวละครตัวนี้ เพราะสิ่งเหล่านี้มันคือเรื่องตลกที่เอามาแซวกันเฉย ๆ อ่านเอาสนุกขำ ๆ ก็พอ และถ้าใครไปเจอรูปแบบอื่น ๆ ที่น่าสนใจในอนิเมะเรื่องไหนอีกก็เอามาพูดคุยกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการอนิเมะก็ติดกันได้ที่แบไต๋ได้เลย หรือจะย้อนไปอ่านบทความเก่า ๆ ก็มีให้เลือกอ่านมากมายจนคุณไม่มีเบื่อแน่นอน แล้วคุณจะรู้ว่าที่แบไต๋มีครบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง