นอนเฝ้าศพยาย 3 วัน หลังร่างเน่า นำไปฝั่งเองในสวน อสม.เอาของมาให้ ตอบเฉย ยายตายฝังแล้ว
หลานชายวัย 37 ปี นอนเฝ้าศพยายวัย 93 ปีนาน 3 วัน หลังศพเริ่มเน่า นำร่างยายไปฝั่งเองในสวน 4 วันต่อมา อสม.รูดเอาของจากบัตรคนจนมาให้ยาย ถามหาตอบหน้าตาเฉย ยายตายแล้ว ฝังแล้ว อสม.ไปดูถึงกับผงะ ศพเริ่มเน่าเปื่อย ตำรวจส่งศพพิสูจน์ ขณะหลานชายระบุ สาเหตุที่ฝังศพเอง เพราะเกรงใจชาวบ้าน ไม่มีใครสนใจ และมีคนเอาเงินเดือนยายไปใช้ เผยมีประวัติติดยาเสพติด
วันที่ 5 ธันวาคม ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.พลับพลาชัย อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านโคกเพชร ต.โคกขมิ้น ว่ามี อสม.ในหมู่บ้าน พบศพคนเสียชีวิตภายในหมู่บ้าน คาดว่าจะเสียชีวิตมาหลายวัน เพราะศพเริ่มเน่าเปื่อย จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ประโคนชัย เข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพลับพลาชัย ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 บ้านโคกเพชร พบชาวบ้านมามุงดูศพนางสอย คงทันดี อายุ 93 ปี ที่ถูกฝังอยู่ข้างบ้านมีกิ่งไม้มาทับไว้ ตรวจสอบพบว่าสภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย ซี่โครงบางส่วนหลุดหายไป คาดมีสุนัขคุ้ยแล้วคาบไป
สอบถามนางเหยียบ คงทันดี อายุ 69 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน เล่าว่า ตนจะถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของนางสอย ไว้เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทุกครั้งจะเอาบัตรไปรูดเอาสิ่งของส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้งมาให้
ก่อนทราบเรื่องตนได้ไปรูดเอาปลากระป๋อง และอาหารแห้งมาให้ แต่ไม่พบนางสอย ซึ่งปกติจะนอนอยู่ที่นอน จึงถามนายแดง คงดี อายุ 37 ปี หลานนางสอย ที่อยู่ด้วยกันเพียง 2 คนภายในบ้านว่า”ยายสอย”อยู่ไหน
โดยนายแดง บอกว่า”ยายเสียแล้ว”คิดว่านายแดงพูดหยอก จึงไปดูภายในบ้านแต่ก็ไม่พบ โดยนายแดง บอกด้วยว่า”เอาไปฝังแล้ว เมื่อไปดูจุดที่นายแดง บอก พบร่างนางสอย ถูกฝังอยู่ข้างบ้านจริง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ส่วนสาเหตุที่นายแดง ไม่แจ้งใครที่ทราว่ายายตัวเองเสียชีวิต ยังไม่มีใครรู้เหตุผล มีเพียงข้อมูลของนายแดง ว่าเคยมีประวัติเสพยามาก่อน เคยมีภรรยาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก แล้วหย่าร้างกัน กลับมาอยู่กับยายเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่นายแดง หลานยายสอย กล่าวว่า เมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้ ยายได้นอนสิ้นลมอยู่บนที่นอน แต่ไม่บอกให้ใครทราบ ปล่อยให้ยายนอนอยู่ที่นอน ประมาณ 4 วันหลังศพยายเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จึงเอาแป้งมาทาให้ แต่ก็ไม่หาย จึงเอาร่างยายไปข้างบ้าน แล้วใช้เสียบขุดฝัง ก่อนเอากิ่งไม้มาวางทับไว้ ผ่านไปอีก 3 วันกระทั่งมี อสม.มาพบดังกล่าว
ส่วนสาเหตุที่ไม่บอกให้ทราบทราบเรื่องยายเสียชีวิต เพราะไม่อยากจะไปรบกวนชาวบ้านในช่วงหน้าเก็บเกี่ยวข้าว ประกอบกับไม่รู้จะไปปรึกษาใคร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของตนกับยาย เงินเดือนเบี้ยคนชรา ตนไม่ได้ได้รับ มีแต่คนอื่นมาเอาไป
อย่างไรก็ตามด้านคดี ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี ระบุว่า ตอนนี้ได้ส่งศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบทั้งพยานและหลักฐานอื่นมาประกอบ ก่อนจะสรุปสำนวนอีกครั้ง