รีเซต

Apple ยอมแพ้ AI ยุคใหม่ เลิกพัฒนา Siri โฉมใหม่เอง หันไป "จ้าง Google" ทำให้

Apple ยอมแพ้ AI ยุคใหม่ เลิกพัฒนา Siri โฉมใหม่เอง หันไป "จ้าง Google" ทำให้
epapipe
18 พฤศจิกายน 2568 ( 08:30 )
3

วงการเทคโนโลยีต้องตกตะลึงกับข่าวใหญ่ที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในทิศทาง AI ของ Apple เมื่อมีรายงานข่าวอย่างต่อเนื่องจากสื่อเทคโนโลยีชั้นนำว่า Apple ได้ตัดสินใจ "ยกธงขาว" ในการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model - LLM) สำหรับ Siri โฉมใหม่ด้วยตัวเอง และหันไปพึ่งพาเทคโนโลยี AI ขั้นสูงจากคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Google แทน

นี่ไม่ใช่แค่การร่วมมือทางธุรกิจทั่วไป แต่เป็นการยอมรับโดยปริยายว่า Apple ที่เคยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมนั้น กำลังประสบปัญหาในการก้าวทันเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการแข่งขันกับ Google ที่มีโมเดล Gemini เป็นหัวหอก และ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT

 

 

ทำไม Apple ถึงต้องยอมแพ้? ปัญหาของ Siri และ AI ภายใน

แม้ว่า Apple จะทุ่มเทงบประมาณและบุคลากรเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ภายในมานานหลายปี แต่ Siri เวอร์ชันปัจจุบันและโมเดล AI ภายในของ Apple กลับไม่สามารถเทียบชั้นกับโมเดลอย่าง Gemini หรือ GPT-4 ได้ สาเหตุสำคัญมีดังนี้:

1. การตามหลังในสงคราม LLM

  • การพัฒนาที่ช้ากว่า: การพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรการประมวลผล (Computing Power) มหาศาล และข้อมูลมหาศาล ซึ่ง Google และ Microsoft ได้ทุ่มเททำมานานหลายปี Apple แม้จะมีการพัฒนาโมเดลชื่อ "Apple GPT" (หรือที่คาดว่าเป็นพื้นฐานของ ReALM และ Ajax) แต่ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดด้านประสิทธิภาพและขนาดของโมเดลคู่แข่งได้
  • ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ล้าหลัง: Siri เวอร์ชันปัจจุบันถูกมองว่า "โง่กว่า" และ "ตอบได้ไม่เป็นธรรมชาติ" เท่าผู้ช่วย AI คู่แข่ง ซึ่งไม่ตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้ใช้งานในยุค Generative AI ที่ต้องการความสามารถในการสนทนาที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์

2. ทิศทางใหม่ที่เน้นฟังก์ชัน (Functionality) มากกว่าแบรนด์ (Branding)

Apple ตระหนักดีว่าหากยังคงใช้โมเดลที่อ่อนแอกว่า จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสามารถในการแข่งขันของ iPhone และ iPad ในอนาคต ดังนั้น การเลือกที่จะ "ซื้อ" ความสามารถ AI ขั้นสูงจากภายนอกจึงเป็นทางออกที่เร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวใน iOS 18 จะสามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจทันที

 

 

ดีลประวัติศาสตร์: Apple + Google Gemini

การตัดสินใจจับมือกับ Google ถือเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญยิ่ง:

1. Gemini: หัวใจใหม่ของ Siri

  • Gemini คือคำตอบ: Apple เลือกใช้โมเดล Google Gemini ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความสามารถในการประมวลผลทั้งข้อความ ภาพ และเสียง (Multimodality) เพื่อมาขับเคลื่อนฟีเจอร์ AI หลัก ๆ บนอุปกรณ์ของ Apple
  • ข้อตกลงและมูลค่า: รายงานระบุว่า ข้อตกลงนี้มีมูลค่ามหาศาล และจะทำให้ Google กลายเป็น "ผู้ให้บริการ AI เชิงสร้างสรรค์" รายสำคัญให้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple

2. AI Hybrid: ผสานกำลังในตัวเครื่องและคลาวด์

ทิศทางการนำ AI มาใช้ใน iOS 18 จะเป็นแบบ "ไฮบริด" (Hybrid AI) เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพ:

  • On-Device AI (AI บนอุปกรณ์): Apple จะยังคงใช้ AI ที่พัฒนาเองเพื่อจัดการงานง่าย ๆ และงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เช่น การสรุปการแจ้งเตือน, การตอบกลับข้อความสั้น ๆ หรือฟีเจอร์ AI ที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการโดยตรง
  • Cloud AI (AI บนคลาวด์): เมื่อผู้ใช้ต้องการคำตอบที่ซับซ้อน, การสร้างเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์, หรือการค้นหาข้อมูลในวงกว้าง คำสั่งนั้นจะถูกส่งไปยัง Google Gemini ที่รันอยู่บน Cloud เพื่อประมวลผลและส่งผลลัพธ์กลับมา

 

 

อนาคตของ Siri และ iOS 18

การร่วมมือครั้งนี้บ่งชี้ว่า Siri โฉมใหม่ ที่เราจะได้เห็นในงาน WWDC และ iOS 18 จะถูกยกระดับความสามารถอย่างก้าวกระโดด:

  1. ฉลาดขึ้นอย่างชัดเจน: Siri จะสามารถเข้าใจคำสั่งที่มีความซับซ้อนและยาวขึ้น (Contextual Understanding) สามารถสรุปเอกสารหรืออีเมล, สร้างภาพ, และทำงานข้ามแอปพลิเคชันได้ดีขึ้นอย่างมาก
  2. ประสบการณ์ผู้ใช้แบบใหม่: ฟีเจอร์ AI ที่จะรวมอยู่ในแอปฯ ต่าง ๆ เช่น Mail, Messages, และ Safari จะถูกขับเคลื่อนด้วยโมเดลที่แข็งแกร่ง ทำให้เกิดความสามารถใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาท้าทายความสามารถของอุปกรณ์ Android ทันที
  3. อนาคตของ OpenAI: ถึงแม้ Apple จะเลือก Google แต่ก็มีรายงานว่า Apple ยังคงมีการเจรจากับ OpenAI เช่นกัน ซึ่งอาจหมายความว่า Apple กำลังเปิดประตูให้มีการเลือกใช้โมเดล AI ได้หลากหลายในอนาคต ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของงาน (Multi-model Strategy)

การตัดสินใจครั้งนี้แม้จะเป็นการยอมรับความจริงในสมรภูมิ AI แต่ก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดและรวดเร็ว เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple สามารถแข่งขันได้อย่างสมศักดิ์ศรีในยุคที่ AI ได้กลายเป็นฟีเจอร์หลักของสมาร์ทโฟนไปแล้ว

Photo Credit : AI Generated

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง