"New Normal"ความท้าทายการส่งออกอาหารผ่านชายแดน

        ช่วงที่ผ่านมาผู้บริโภคเริ่มปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงหรือ ที่เราคุ้นหูกันมากขึ้นกับคำว่า New Normal  ซึ่งการปรับตัวได้เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นช่วงที่เราประสบกับวิกฤตโควิด-19  ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกไปในที่สาธารณะ ร้านค้า ร้านอาหารมีมาตรการเว้นระยะห่าง มีแอลกอฮอล์เจลไว้บริการ การกำหนดจำนวนลูกค้าในการเข้าใช้บริการ เป็นต้น 

        ด้านภาคธุรกิจการค้าชายแดนที่ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการเร่งเครื่องเศรษฐกิจไทย ก็ต้องปรับตัวไม่แพ้กัน  ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า  COVID-19 เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการค้าชายแดนและผ่านแดน  ที่ต้องบริหารจัดการธุรกิจท่ามกลางรายได้จากการส่งออกที่หายไปตามกำลังซื้อของประเทศเพื่อนบ้านที่เผชิญวิกฤตเดียวกัน 

        โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 การค้าชายแดนและผ่านแดนไทยมีมูลค่า 209,231 ล้านบาท หดตัวกว่า 10.6 %  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการส่งออกอาหารสด ผักและผลไม้หดตัวสูงถึง 38.1%  เนื่องจากอ่อนไหวด้านระยะเวลาขนส่งอย่างมาก  ขณะที่อาหารแปรรูปยังขยายตัวที่ 2%  

        นอกจากนี้ การส่งออกอาหารในภาพรวมยังต้องเผชิญกับต้นทุนการขนส่งที่ไม่แน่นอนในการรับมือกับมาตรการเฉพาะหน้าอย่างการคัดกรองบุคคลข้ามแดนที่มีผลอย่างมากต่อการขนส่ง รวมถึงมาตรการความปลอดภัยอื่นๆ ที่จะส่งผลในระยะต่อไปกลายเป็นวิถีการขนส่งข้ามแดนรูปแบบใหม่ (New Normal) จนกว่าการแพร่ระบาดจะคลี่คลายจริงๆ

        ดังนั้นจึงสะท้อนให้เห็นได้ว่าการส่งออกอาหารผ่านชายแดนในปี 2563 อาจไม่ราบรื่นตลอดปี เพราะมีการส่งออกอาหารสด ผักและผลไม้ในสัดส่วนถึง 30% ของการส่งออกอาหารผ่านชายแดน อีกทั้งสินค้าเกือบทั้งหมดมีปลายทางตลาดอยู่ที่เวียดนามและจีน ซึ่งต้องขนส่งผ่าน สปป.ลาว และต้องปรับตัวรับมือกับบางมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการขนส่งสินค้าอาหารสดที่ต้องแข่งกับเวลา และในระยะยาวต้องรับมือกับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย  ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงมือผู้บริโภคเพราะหลายๆประเทศจะให้ความสำคัญมากขึ้น

      ข้อสังเกตที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ  วิถีปฏิบัติแบบเดิม (Old Normal) ก็ยังเป็นโจทย์ของภาครัฐบาลที่ต้องเร่งผลักดันลดอุปสรรคในการขนส่งสินค้าในภูมิภาค ให้สามารถเชื่อมโยงกันในทางปฏิบัติได้ทุกเส้นทาง เพื่อบรรเทาปัญหาจากความไม่แน่นอนหากไวรัสกลับมาลุกลามอีกครั้ง  เช่น  การเจรจาให้แต่ละประเทศอะลุ่มอล่วยกฎระเบียบภายในเพื่อให้ทุกประเทศได้ประโยชน์ร่วมกันในการขนส่งสินค้า 

        จนกว่า COVID-19 จะคลี่คลาย " New Normal " จึงเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญของผู้ประกอบการในยุคนี้ เพราะธุรกิจจะอยู่รอดได้ ก็ต่อเมื่อมีการปรับตัว หากยังอยู่แบบ Old Normal ก็อาจจะก้าวไม่ทันกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

- เปิด 3 เทรนด์!! ทางรอดธุรกิจใน "New Normal"

- เปิดทางรอดธุรกิจฟิตเนส! เมื่อต้องปรับตัวรับ"New Normal"

- เปิดเส้นทางแพลตฟอร์มออนไลน์สร้างสรรค์ ธุรกิจตอบโจทย์ "New Normal"

- ส่องไอเดียทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยุค "New Normal"