"สถานบันเทิงครบวงจร"ลงเสาเข็มใน 3 ปี

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หลังจากที่มีการผลักดันเรื่องนี้ถูกพูดถึงมาหลายยุคสมัยแต่ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเราต้องการผลักดันกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในสมัยนี้ และมั่นใจว่าจะสามารถตอกเสาเข็มโครงการได้ภายใน 3 ปี โดยผลบวกทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ ครม. อนุมัติโครงการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การก่อสร้าง และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ
ขั้นตอนต่อจากนี้ ได้เร่งให้มีการบรรจุวาระในสภาฯ ภายในช่วงต้นเดือนเม.ย. ซึ่งเมื่อกฎหมายแล้วเสร็ขหลังจากนั้นจะมีการจัดตั้งสำนักงานและโอนบุคลากร รวมถึงจ้างบริษัทเอกชนเพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
โดยเอกชนที่น่าเชื่อถือจะเข้ามาให้ข้อมูลว่าประเทศไทยควรมี สถานบันเทิงครบวงจร กี่แห่ง ที่ไหนบ้างที่มีศักยภาพ และต้องลงทุนเท่าไหร่ รวมถึงกิจกรรมที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม
ซึ่งคณะกรรมการฯ จะนำข้อมูลมากลั่นกรองและออกแนวทางการจัดทำร่างขอบเขตของาน (TOR) เพื่อเปิดให้เอกชนเสนอโครงการ โดยจะมีการตัดสินอย่างโปร่งใส
สำหรับพื้นที่ที่จะใช้ในการก่อสร้างควรเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันเรื่องพื้นที่ และขนาดพื้นที่ต่อจุดควรมี 300 ไร่ขึ้นไป เนื่องจากไม่ใช่แค่กาสิโน แต่ยังมีส่วนอื่นๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ และอื่นๆ
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจมาก เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบเหนือประเทศอื่นๆ ในด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และฐานนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้มีความเหมาะสมในการดึงดูดการลงทุน
นอกจากนี้ สถานบันเทิงครบวงจร จะเป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย ทำให้ GDP เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโตถึงร้อยละ 3 หรือไม่ และจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวต่อ GDP ให้มากขึ้น