TMANเคลียร์ชัดปันผล รุกความงาม6หมื่นล้าน
#TMAN #ทันหุ้น – TMAN แจงปมกู้เงินปันผลยุติธรรม โปร่งใส เหตุลงทุนสร้างธุรกิจโดยไร้การปันผลตั้งแต่แรก สร้างสินทรัพย์-แบรนด์ โฟกัสเร่งโต Propoliz ฮิตรุกนอก จ่อพัฒนาให้เป็นยาเข้าโรงพยาบาล มุ่งยากลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่งหมดสิทธิบัตรมาร์จิ้นสูง รุกคลินิกความงามตลาด 6 หมื่นล้านบาท ลุยซื้อกิจการ จับตางบ 12 พฤศจิกายน นี้ แย้มครึ่งปีหลังงบดีกว่าครึ่งแรก
นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริม เครื่องสำอาง เวชสำอาง และยาสมุนไพร เปิดเผยใน รายการ “ทันหุ้น-ทันเกม” ถึงเหตุผลการกู้เงินเพื่อปันผลก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ว่าเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง โปร่งใส และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ทั้งกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ และยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาเหตุหลักของการกู้เงินเพื่อปันผลมาจากแนวคิดของผู้ก่อตั้งบริษัทที่ต้องการตอบแทนผู้ถือหุ้นเดิม โดยตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้นำกำไรที่ได้ไปลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น มีการสร้างโรงงาน 2 แห่ง รวม 6 อาคารการผลิต เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับเดียวกับยุโรป นอกจากนี้ยังลงทุนในที่ดิน ลูกหนี้การค้า สต๊อกสินค้า ยังไม่รวมกับมูลค่าของแบรนด์สินค้าที่ได้สร้างขึ้นมา
การกู้เงินในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการตอบแทนผู้ถือหุ้นเดิมที่สนับสนุนบริษัทมาอย่างยาวนาน โดยเงินปันผล 1,200 ล้านบาท เป็นไปตามกำไรสะสมของบริษัท ขณะที่ดอกเบี้ยในการกู้ยืมเงินเงินกู้ที่ได้รับอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 3% ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของสถาบันการเงินที่มีต่อศักยภาพของบริษัท
ขณะที่อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ของบริษัท ค่อนข้างดีมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) สูงถึง 19-20% แสดงถึงศักยภาพในการทำกำไรที่ดี บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Cash Flow From Operations) ที่ดี อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt-To-Equity Ratio : D/E) กลับมาอยู่ที่ระดับ 1.3 เท่า อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Service Coverage Ratio : DSCR) อยู่ที่ 13-14 เท่า ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการชำระคืนหนี้ที่ดี บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถชำระคืนเงินกู้ได้ภายใน 3-4 ปี
@ ต่อยอดแบรนด์
สำหรับแนวทางในการขยายธุรกิจจะเติบโตใน 3 แนวทางหลักๆ คือการเติบโตในสินค้า การเติบโตในช่องทางการจัดจำหน่าย และ New Business Model ทั้งการรับจ้างผลิต และการรับจ้างจัดจำหน่าย
ในส่วนการเติบโตของสินค้านั้นจะมีการต่อยอดแบรนด์ และพัฒนาโปรดักต์แชมเปี้ยน ต่อเนื่อง อาทิ Propoliz มีแผนการการพัฒนาขยายไปสู่ยา ที่แพทย์ในโรงพยาบาลจะสามารถสั่งได้ในอนาคต นอกเหนือการเป็นยาสมุนไพรที่ขายอยู่ทุกวันนี้ เพื่อที่จะให้ครบซีรีส์ ขณะที่แบรนด์อื่นๆ ก็มีแผนที่จะพัฒนาใหม่ๆ ออกมา
นอกจากนี้ TMAN ยังมีการเน้นไปที่กลุ่มยาสำหรับโรงพยาบาล โดยเฉพาะยาที่เพิ่งหมดสิทธิบัตร (New Generic Drug) และมีอัตรากำไรสูง (High Margin) ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NDC) เช่น ยา Atorvastatin สำหรับลดไขมัน หรือ ยาเบาหวาน ซึ่งเป็นยาที่ต้องใช้ตลอดชีวิต โดยยืนยันว่ายาที่เพิ่งหมดสิทธิบัตรจะมีอัตรามาร์จิ้นที่สูงในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะทยอยลงมา อย่างไรก็ดีบริษัทมีแผนการพัฒนายาที่เพิ่งหมดสิทธิบัตรออกมาปีละ 3-4 รายการ
@ รุกความงาม
ในส่วนของการเติบโตในช่องทางการจัดจำหน่าย TMAN ได้เดินหน้าขยายทีมขายเพื่อเพิ่มยอดขายในช่องทางเดิมที่มีอยู่แล้ว ทั้ง ร้านขายยา คลินิก โมเดิร์นเทรด ล่าสุดได้มีการเปิดช่องทางใหม่บุกตลาดคลินิกความงาม (Aesthetic Clinic) ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 60,000 ล้านบาท อย่างจริงจัง โดยล่าสุดร่วมมือกับพันธมิตรจากเกาหลี นำเข้าสินค้ากลุ่มความงาม เช่น ฟิลเลอร์, ไหมละลาย, และเครื่องมือแพทย์ ในแบรนด์ของตัวเองชื่อ “REJUNAE” โดยเป็นสินค้าคุณภาพระดับยุโรป ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งตลาดนี้มีมูลค่า 5-6 พันล้านบาท ดังนั้นจึงมีโอกาสในการเติบโตสูง เนื่องจากสามารถเพิ่มกำไรให้กับคลีนิคต่างได้ โดยประเมินว่ากลุ่มคลินิกจะมีสัดส่วนยอดขายจาก 5% ขึ้นมาสู่ในระดับ 10% ได้
ส่วน New Business Model จะมีการการรับจ้างผลิต (OEM) รวมถึงการรับจ้างกระจายสินค้า
@ ขยายตลาดนอก-เล็งซื้อกิจการ
นายประพล กล่าวด้วยว่า หลังจากที่บริษัทเข้าตลาดแล้วได้รับการจับจ้องจากหลายประเทศ ซึ่งจากการไปออกงานมหกรรมแสดงสินค้าในเดือนที่ผ่านมามีการพรีเซนต์ด้านนี้และก็เป็นโอกาสในการขยายตลาดต่อในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มโปรดักต์แชมเปี้ยน Propoliz ก็นับเป็นตัวเอกที่กำลังเจรจาอีกหลายประเทศนอกเหนือจากที่มีการขายแล้วประมาณ 22 ประเทศ ตั้งเป้าปีหน้าจะบุกให้เต็มที่ ล่าสุดเพิ่งกลับมาจากฮ่องกง จีน
นอกจากการเติบโตแบบออแกนิกแล้วบริษัทยังมองหาโอกาสในการเติบโตแบบ Inorganic Growth ผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A) โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไว้ในระดับ 2 หลัก
นายประพล ยืนยันว่า ครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก สอดคล้องกับเทรนด์ของอุตสาหกรรม Healthcare ที่มักเติบโตมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดย TMAN จะประกาศงบไตรมาส 3 ประมาณวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยต้องการฝากถึงนักลงทุนว่าขอให้เชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีแผนที่จะขายหุ้นออก (Exit) อย่างแน่นอน โดยได้ทำล็อกหุ้นโดยสมัครใจสัดส่วนหุ้น 74.5% เป็นระยะเวลา 6 เดือน และบริษัทมีทีมงานที่มีประสบการณ์ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยบริษัทได้จัดตั้งทีมนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) เพื่อสื่อสารข้อมูลกับนักลงทุนอย่างใกล้ชิด