ญี่ปุ่นลงงบ 2.2 พันล้านบาท ดัน “นิวเคลียร์ฟิวชัน” ให้ผลิตพลังงานได้ในอีก 5 ปี

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจัดสรรงบประมาณจำนวน 10,000 ล้านเยน หรือราว 2,300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสถาบันวิจัยฟิวชันนิวเคลียร์ 3 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดระยะเวลาการพัฒนาและเพิ่มความเป็นไปได้ในการผลิตพลังงานจาก “นิวเคลียร์ฟิวชัน” ซึ่งถูกมองว่าเป็นพลังงานสะอาด ปลอดภัย และยั่งยืนในอนาคต
งบประมาณดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการจัดซื้อและพัฒนาอุปกรณ์ทดลองที่จำเป็น เช่น ระบบตรวจสอบความทนทานของวัสดุภายในเครื่องปฏิกรณ์ และเครื่องมือวิเคราะห์สภาพภายในระหว่างการทดลองฟิวชัน เพื่อยกระดับความพร้อมของญี่ปุ่นในเวทีวิจัยพลังงานฟิวชันระดับโลก
นิวเคลียร์ฟิวชันเป็นกระบวนการเดียวกับที่เกิดขึ้นภายในดวงอาทิตย์ โดยอาศัยการหลอมรวมของนิวเคลียสอะตอมเบา เช่น ดิวทีเรียมและทริเทียม ซึ่งจะปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างมหาศาล มีการประเมินว่า เชื้อเพลิงฟิวชันเพียง 1 กรัม อาจให้พลังงานได้เทียบเท่ากับการเผาไหม้น้ำมันสูงถึง 8 ตัน
เพื่อผลิตพลังงานโดยใช้ปฏิกิริยาฟิวชัน เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เช่น ดิวทีเรียมและทริเทียม จะถูกให้ความร้อนถึง 100 ล้านองศาเซลเซียสหรือสูงกว่า เพื่อให้อะตอมรวมตัวกัน พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากปฏิกิริยาจะถูกแปลงเป็นความร้อนเพื่อผลิตไฟฟ้าออกมาในท้ายที่สุด
ในประเทศญี่ปุ่น มีเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันอยู่ 3 แห่ง ประกอบไปด้วย สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัมแห่งชาติ (QST) สถาบันวิทยาศาสตร์ฟิวชันแห่งชาติ และสถาบันวิศวกรรมเลเซอร์แห่งมหาวิทยาลัยโอซากะ แต่ละแห่งมีเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่แตกต่างกัน
ประกอบไปด้วย “โทคาแมก” สำหรับใช้กักเก็บพลาสมาที่ร้อนจัดเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาฟิวชัน “สเตลลาเรเตอร์” ที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน และ “เครื่องปฏิกรณ์เลเซอร์” ที่ให้ความร้อนเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ด้วยลำแสงเลเซอร์
แต่โครงการวิจัยของสถาบันเหล่านี้ยังคงอยู่ในระยะทดลอง และยังไม่ชัดเจนว่าเทคโนโลยีฟิวชันของทั้ง 3 สถาบัน จะพร้อมใช้งานจริงได้เมื่อใด
นั่นเป็นเหตุผลที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นลงทุน 10,000 ล้านเยน หรือ 2,280 ล้านบาท ให้กับทั้ง 3 สถาบัน เงินทุนดังกล่าวจะใช้สำหรับการสร้างอุปกรณ์ตรวจสอบความทนทานของอุปกรณ์ที่แปลงพลังงาน ซึ่งผลิตได้จากการฟิวชันนิวเคลียร์เป็นความร้อน นอกจากนี้ยังจะใช้สำหรับการปรับปรุงอุปกรณ์เลเซอร์ให้ความร้อนจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ด้วย
และเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมเติบโต รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดให้บริษัทเอกชน สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการอัพเกรดจากทั้ง 3 สถาบัน รวมไปถึง ยังได้เตรียมแก้ไขนโยบายกลยุทธ์ระดับชาติ ที่เกี่ยวกับการใช้นิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงาน โดยจะกำหนดเป้าหมายในการนำพลังงานฟิวชันมาใช้ในปี 2030 หรืออีกประมาณ 5 ปีต่อจากนี้
ข้อมูล japannews.yomiuri.co.jp/
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
