"SOLAR" เล็งเพิ่มทุน PP 330 ล้านหุ้น ขายกองทุนสิงคโปร์
#ทันหุ้น - SOLAR บอร์ดไฟเขียวเพิ่มทุน PP ไม่เกิน 330 ล้านหุ้น ขายกองทุนสิงคโปร์ “Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore” ราคาหุ้นละ 0.80 บาท พร้อมชงผู้ถือหุ้น 18 ธ.ค.นี้ ฟากซีอีโอ “สิทธิชัย กฤชวิวรรธน์” เล็งนำเงินขยายลงทุนธุรกิจหลักและธุรกิจที่เกี่ยวข้องตามแผน มั่นใจดันรายได้เติบโตมั่นคงในระยะยาว แย้มมีโอกาสกลับมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง ส่งสัญญาณปี 67 เทิร์นอะราวด์เต็มสูบ
นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (SOLAR) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2566 ในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 330 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ได้แก่ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ซึ่งบุคคลดังกล่าวไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 0.80 บาท คาดได้รับเงินลงทุนราว 264 ล้านบาท
ทั้งนี้ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ถือหุ้นบริษัทฯ เป็นจำนวน 330,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 21.61% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนในครั้งนี้บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปัจจุบัน และเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
“การออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 330 ล้านหุ้นให้กับ Enyorra Private Equity Pte.Ltd.,Singapore ในราคา 0.80 บาท/หุ้น คาดว่าจะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน รวมทั้งเสริมสร้างให้มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการรองรับการขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ทั้งในส่วนของแผงโซลาร์เซลล์และธุรกิจ EPC รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในธุรกิจพลังงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่พลังงานจากแสงอาทิตย์ เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม เป็นต้น อีกทั้งยังช่วยลดภาระหนี้สินในการกู้ยืม และภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในระยะยาวได้อย่างมั่นคง รวมทั้งการกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้โดยเร็วที่สุด”
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิ 5.97 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 51.18 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 166.16 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 137.67 ล้านบาท ทั้งนี้มีสาเหตุสาเหตุหลักมาการกลับรายการค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์และค่าเผื่อผลขาดทุนจากการลดมูลค่าของสินค้า เนื่องจากการประเมินราคาทรัพย์สินให้เป็นปัจจุบัน