แพทย์อาวุโสอังกฤษ แนะนักเรียนเร่ง “ฉีดวัคซีน” ป้องกันการเสียชีวิต

ข่าวคราวการเสียชีวิตด้วยโควิด-19 ของเด็กหญิงวัยเพียง 15 ปี ในประเทศอังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้แพทย์หลายคนออกมาเรียกร้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฉีดวัคซีน ให้กับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา เพื่อป้องกันการเสียชีวิต

ดร.เฮเลน ซาลิสเบอรี่ แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปในออกซ์ฟอร์ด และสมาชิกคณะกรรมการอิสระที่ให้คำปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์แก่รัฐบาลอังกฤษ (Indenpent Sage Committee) บอกว่า การให้วัคซีนโควิด-19 แก่เด็กนักเรียนเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก ในการป้องกันเด็กๆ ครอบครัวของพวกเขาและการศึกษาของพวกเขา

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวการเสียชีวิตของเด็กหญิงอายุ 15 ปี หลังจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยรายงานข่าวระบุว่า เธอได้เสียชีวิตในวันที่มีนัดหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนหน้านี้เธอมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocarditis) หรือการอักเสบที่หัวใจ หลังจากที่ติดเชื้อไวรัส แม้มีรายงานว่าอาการอักเสบของหัวใจ จะพบค่อนข้างน้อยมากในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว และยังไม่นำไปสู่การเสียชีวิตในกลุ่มวัยหนุ่มสาว แต่ถือว่าความเสี่ยงที่จะมีอาการดังกล่าว จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีมากกว่าการฉีดวัคซีน

รัฐบาลอังกฤษ ได้เริ่มให้วัคซีนแก่เด็กนักเรียน ชั้นมัธยมอายุตั้งแต่ 12-15 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2564 เป็นต้นมา แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นแล้ว ยังถือว่าช้ามาก เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่ง ยังประสบปัญหาการดำเนินการ อีกทั้งบางขั้นตอนก็มีความซับซ้อนสำหรับบางกลุ่มอายุ เนื่องจากต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน

ตั้งแต่เริ่มภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง อัตราการติดเชื้อในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในประเทศอังกฤษได้เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าเด็กประมาณ 1 ใน 20 คนในช่วงอายุ 7-11 ปีมีผลตรวจโควิดเป็นบวก

ขณะที่หน่วยงานด้านการแพทย์ของอังกฤษ ได้แนะนำให้เด็กอายุ 12-15 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์เพียง 1 เข็ม หลังจากได้พิจารณาถึงผลกระทบ ที่มีต่อการเรียนและสุขภาพจิตของเด็กแล้ว

ด้าน ดร.คามิลลา คิงดอน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์และสุขภาพเด็กของอังกฤษ บอกว่า อยากจะให้เด็กๆ และผู้ปกครองทุกคน ให้ความสำคัญกับการเข้ารับวัคซีน โดยหากมีข้อสงสัยขอให้รับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ