ตองกาตัดสินใจล็อกดาวน์ปิดทั้งประเทศในวันนี้ หลังพบคนงานท่าเรือที่ช่วยแจกจ่ายความช่วยเหลือหลังเกิดภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดและคลื่นยักษ์สึนาในตองกา ติดโควิด-19

รัฐบาลตองกาสั่งล็อกดาวน์ปิดประเทศเริ่มตั้งแต่วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) หลังพบคนงานท่าเรือติดโควิด-19 เพียง 2 คน โดยเป็นคนงานที่ช่วยแจกจ่ายความช่วยเหลือให้แก่ชาวตองกา หลังจากเกิดภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อ 15 มกราคมที่ผ่านมา

 

ก่อนหน้านี้ ตองกาเคยแสดงความวิตกว่า ความช่วยเหลือที่มาจากนานาชาติหลังภูเขาไฟระเบิดและคลื่นยักษ์สึนามิ จะนำเชื้อโควิด-19 เข้าไปยังตองกาด้วย ความหวั่นกลัวของตองกากลายเป็นจริง

 

เจ้าหน้าที่รัฐบาลตองการะบุว่า หากเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในตองกา จะเป็นภัยที่ร้ายแรงยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดและคลื่นสึนามิ ตองกานับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ปลอดการระบาดของโควิด-19 แม้โควิดระบาดทั่วโลกมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยตองกาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนแรกและคนเดียวเท่านั้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และเป็นเคสเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่ไม่เคยพบการติดโควิดภายในประเทศเลย

 

ด้านนายกรัฐมนตรี ซิอาวซี โซวาเลนี ของตองกา ระบุว่า การล็อกดาวน์ปิดประเทศจะเริ่มในเวลา 18.00 น. ของวันนี้ (2 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเวลานาน 48 ชั่วโมง แต่เตือนว่า การปิดประเทศครั้งนี้จะเป็นปลายเปิด โดยสามารถขยายเวลาล็อกดาวน์ต่อไปได้ไม่มีกำหนด แต่จะทบทวนทุก 2 วัน

 

คำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศกำหนดให้ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้าน และรัฐบาลจะงดให้บริการประชาชน โดยจะเหลือเพียงเฉพาะบริการพื้นฐานเท่านั้น ทำให้ชาวตองกาต่างแห่กันออกไปซื้อสินค้าจนแน่นซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า และกดเงินสดมาเก็บไว้ จนเข้าแถวยาวเหยียดหน้าตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารหลายแห่ง

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่าน เกิดเหตุภูเขาไฟใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ชื่อ ฮังกา ตองกา-ฮังกา ฮาอาปาย ระเบิด และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูง 15 เมตร ซัดเข้าสู่ตองกา มีผู้เสียชีวิต 3 คนจากสึนามิ ประชาชนเดือดร้อนเกือบทั้งประเทศคือ 84% ของประชากรทั้งหมดของตองกา ประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิก ซึ่งมีประชากรทั้งหมดเพียงกว่า 100,000 คนเท่านั้น

 

————

ภาพ: Reuters