รีเซต

"พาณิชย์" รับมือกัมพูชา เร่งกระจายผลไม้ในประเทศ ชี้ยังไม่กระทบส่งออก มีหลายเส้นทางทดแทน

"พาณิชย์" รับมือกัมพูชา เร่งกระจายผลไม้ในประเทศ ชี้ยังไม่กระทบส่งออก มีหลายเส้นทางทดแทน
TNN ช่อง16
18 มิถุนายน 2568 ( 14:47 )
5

นายพิชัย นริพทะพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาในขณะนี้ ซึ่งล่าสุดทางการกัมพูชาไม่อนุญาตให้นำเข้าผักผลไม้จากไทยเข้าสู่ประเทศกัมพูชา  ยืนยันว่ายังไม่กระทบต่อสินค้าไทยมากนัก เพราะยังสามารถกระจายผลไม้ไปยังห้างโมเดิร์นเทรดต่างๆได้อยู่  โดยล่าสุดมีการรับซื้อมังคุดไปแล้ว 6 แสนกิโลกรัม ส่วนเรื่องผักสดที่มีปัญหาการส่งออกจากไทยไปกัมพูชา โดยเฉพาะจากตลาดไทไปยังชายแดนกัมพูชา จะต้องเข้าไปดูว่ากระทบอย่างไรและพิจารณาเป็นรายๆ ไป


นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยเพิ่มเติมถึงการส่งออกผักและผลไม้ไปยังกัมพูชา ว่า ผลไม้ในภาคตะวันออกช่วงนี้ เป็นช่วงปลายฤดูกาล ยังมีผลผลิตอีกไม่ถึง 7 พันตัน ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานหาตลาดให้ โดยล่าสุดมีผู้ประกอบการรับซื้อไปแล้ว 3 พันตัน นอกจากนี้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เตรียมเชิญสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯกว่า 100 ราย ให้เข้ามาช่วยซื้อผลไม้ของไทยด้วย


นายวิทยากร ระบุว่า ชาวกัมพูชานิยมบริโภคผลไม้สุก ดังนั้นจึงไม่กระทบกับการส่งออกของไทย ส่วนเส้นทางส่งสินค้าไปเวียดนาม ยังมีอีกหลายเส้นทางที่ไม่ต้องผ่านกัมพูชา เช่น เส้นทาง R9 สายมุกดาหาร-สหวันนะเขต (สปป.ลาว) – Quag Tri (เวียดนาม) ระยะทาง 230 กม. เส้นทาง R12 สายนครพนม-คำม่วน (สปป.ลาว)-Ha Tinh (เวียดนาม) ระยะทาง 210 กม. และเส้นทางสายอุบลราชธานี-จำปาสัก (สปป.ลาว)- Koh Tum(เวียดนาม) ระยะทาง 250 กม. ดังนั้นหากไม่สามารถผ่านกัมพูชาได้ เราก็ยังมีทางเลือกอีกหลายเส้นทางเพื่อส่งออกไปยังเวียดนาม.



ทั้งนี้ทางกรมการค้าภายในกำกับติดตามสถานการณ์การค้าในภาคตะวันออก ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลไม้ โดยเมื่อวันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดเพื่อติดตามการซื้อขายผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบว่า การซื้อขายยังเป็นปกติ การส่งออกทุเรียนและมังคุดคัดเกรดไปยังประเทศจีนสามารถส่งออกไปแล้วในปริมาณเยอะ และขณะนี้ผลผลิตอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งคาดว่าผลผลิตจะหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ 


ซึ่งขณะนี้การใช้ด่านหลักสองแห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาต ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เป็นเพียงจุดกระจายผลไม้ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อมีการปิดด่าน ผลไม้ไทยที่จะเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านมีปริมาณไม่มากนัก กรมการค้าภายในจึงได้เร่งเข้าไปประสานในพื้นที่ เพื่อนำออกกระจายนอกแหล่งผลิต ภายในประเทศ โดยตลาดภายในประเทศสามารถรองรับผลผลิตในส่วนนี้ได้เพื่อช่วยระบายผลผลิตและรักษาเสถียรภาพราคา


นายวิทยากร กล่าวต่อว่า กรมการค้าภายในได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนหลากหลายภาคส่วน เพื่อผลักดันผลไม้ภาคตะวันออกในช่วงปลายฤดูกาลนี้โดยตั้งเป้าไว้จำนวน 2500 ตัน โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 กรมได้ร่วมกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซื้อมังคุดคัดเกรดขนาดกลางในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 1,000 ตัน เพื่อจำหน่ายในห้างแม็คโครและโลตัสทั่วประเทศ และยังมีห้าง โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลไม้ในช่วงนี้ด้วย



นอกจากนี้ กรมยังมีแผนร่วมกับสมาคมธนาคาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการกระจายผลไม้ไปทั่วประเทศ รวมถึงห้างท้องถิ่นต่าง ๆ โดยกรมจะจัดกิจกรรม  “Thai Fruits Festival”ในงาน Phuket City Pride 2025 ปลายเดือนนี้ ในจังหวัดภูเก็ต อีกด้วย


โดยกรมการค้าภายในขอยืนยันว่า จากข้อกังวลของเกษตรกรหรือประชาชนจากเหตุการความไม่สงบบริเวณชายแดนของกัมพูชา กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์การค้าขายอย่างใกล้ชิด  และเตรียมแผนรองรับผลผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาให้พี่น้องเกษตรกร

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง