รีเซต

PYLONงานใหญ่ดันลงทุน จ่อคิวประมูลตุนแบ็กล็อก

PYLONงานใหญ่ดันลงทุน จ่อคิวประมูลตุนแบ็กล็อก
ทันหุ้น
14 มิถุนายน 2566 ( 12:02 )
93

PYLON มองไตรมาส 2/66 ดีกว่าปีก่อน โชว์แบ็กล็อกในมืออยู่ที่1.16 พันล้านบาท รองรับการเติบโตผลงานปี 2566 นี้ ใส่เกียร์ลุยชิงงานใหม่เติมพอร์ต ฟุ้งยังมีงานรอเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้เพิ่มเติมอีก 1 โปรเจ็กต์ พร้อมเผยกรณีขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบจำกัดและปรับตัวได้ วางงบ 100 ล้านบาทรองรับลงทุน

 

ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศ เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2566 คาดว่ายังคงมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบ ทั้งการเมืองที่ยังไม่มีความแน่นอน รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้งานโครงการต่างๆ มีการชะลอตัวลง

 

*เร่งเติมแบ็กล็อก

 

แม้ว่าในไตรมาส 2/2566 จะมีงานบางส่วนที่ต่อเนื่องมาจากไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ด้วยโครงการใหญ่ที่ทยอยแล้วเสร็จไปบ้างแล้ว ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวลดลงเหลือประมาณ 13-15 ชุด จากไตรมาสก่อนที่ใช้ไปกว่า 18-20 ชุด อย่างไรก็ดี เชื่อว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 จะมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ปัจจุบันบริษัทยังมีงานใหม่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาจ้าง อีก 1 โครงการ ที่เป็นขนาดกลาง-เล็ก คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

 

ขณะที่งานในมือรอการทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ปัจจุบันมีอยู่ที่ประมาณ 1,168 ล้านบาท แต่หากหักงานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน มูลค่าราว 400 ล้านบาทออก จะเหลือประมาณ 768 ล้านบาท แบ่งออกเป็นส่วนงานจากภาคเอกชนกว่า 660 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานค่าแรงและค่าวัสดุ ในส่วนที่เหลืออีก 108 ล้านบาท เป็นสัดส่วนงานโครงการภาครัฐ

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานใหม่เข้ามาเติมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่าจากเศรษฐกิจในปี 2566 ที่อาจไม่ได้ฟื้นตัวดีกว่าปีก่อนมากนักทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมยังคงมีความรุนแรง สะท้อนถึงมาร์จิ้นต่อโครงการที่อาจปรับตัวลงด้วยเช่นกัน ด้านการลงทุนของภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปี 2566 มองว่ายังคงมีการออกโครงการใหม่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นหลักที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว และบางโครงการอาจขึ้นไม่ทันในปีนี้

 

*จับตาครึ่งปีหลัง

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 มองว่ายังคงทำได้ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน โดยแรงผลักดันหลักมาจากไตรมาส 1/2566 ที่บริษัทได้รับงานโครงการใหม่เข้ามาเติมพอร์ตหลายโครงการ ขณะที่ภาพรวมในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ มองว่าคงไม่แย่เท่ากับเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แต่จะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนคนต้องรอติดตามปัจจัยทางการเมืองและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ต่อไป ว่าหลังจากเสร็จสิ้นจะเหลือเดินหน้าลงทุนโครงการใดต่อบ้าง

 

ส่วนแผนการลงทุนในปี 2566 เบื้องต้นบริษัทได้มีการขออนุมัติงบประมาณจากบอร์ดบริหารไว้ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อกันไว้รองรับการลงทุนในกรณีฉุกเฉิน อาทิ การใช้เครื่องจักรพิเศษ ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังคงไม่มีแผนการลงทุนใดๆเพิ่มเติมในสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นเช่นนี้ อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะดีกว่าเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 1,157.73 ล้านบาท แต่การเติบโตดังกล่าวก็คงไม่หวือหวามากนัก

 

กรณี ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่จะขึ้นเป็นชุดใหม่นั้น มองว่าอาจมีผลกระทบต่อการแบกรับต้นทุกค่าแรงของบริษัทในระยะ 2-3 เดือนแรกเท่านั้น ด้วยการดำเนินงานของบริษัทที่มีรอบงานที่เร็วและมีระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้นไม่ยื้ดเยื้อ ทำให้มองว่าจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ความกังวลเดียวจากค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นจากนี้ไปจะกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมมากน้อยแค่ไหนมากกว่า

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง