รีเซต

'อนุทิน' ยันโควิดลามภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่กระทบแผนเปิดปท. ตุลาฯ เร่งบูสต์เข็ม 3 ปชช.

'อนุทิน' ยันโควิดลามภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่กระทบแผนเปิดปท. ตุลาฯ เร่งบูสต์เข็ม 3 ปชช.
มติชน
15 กันยายน 2564 ( 12:31 )
37
'อนุทิน' ยันโควิดลามภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่กระทบแผนเปิดปท. ตุลาฯ เร่งบูสต์เข็ม 3 ปชช.

เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ จ.ภูเก็ต ตามนโยบาย “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 200 ราย ว่า เราต้องเร่งควบคุมสถานการณ์โควิด-19 มีข้อสั่งการในที่ประชุมอีโอซีของ สธ.ช่วงเช้าวันนี้ ซึ่ง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ก็รับนโยบายเกี่ยวกับภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และจังหวัดใกล้เคียง สิ่งที่เร่งด่วนคือ ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ทุกคน เพราะเขาเข้ามาสร้างรายได้ และเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเกาะภูเก็ตที่เป็นเหมือนห้องรับแขกของประเทศไทย ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.64 ทาง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ก็รายงานว่าสามารถดำเนินการฉีดได้แล้ว ก็นำไปฉีดที่ภูเก็ต ซึ่งก็เหมือนการฉีดให้ประชาชนทั่วไปด้วยไม่ใช่แค่ที่ภูเก็ตอย่างเดียว

 

 

“อย่างที่ผ่านมา เราฉีดเข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์แล้วกว่า 5 แสนคน ตอนนี้ก็จะเหลือประชาชนทั่วไปอีกราวๆ 2 ล้านคนต้นๆ ที่เราจะเริ่มฉีดได้ในเดือน ต.ค.64 จึงขอให้ประชาชนที่ถึงคิวรับวัคซีนก็ขอให้ไปรับด้วย  ช่วยกันเพื่อทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของประเทศ” นายอนุทิน กล่าว

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์ภูเก็ตที่มีการติดเชื้อ ก็มีระบบสาธารณสุขรองรับได้ เนื่องจากต่างจังหวัดมีตั้งแต่โรงพยาบาล (รพ.) หลัก รพ.อำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และยังมีเขตสุขภาพ ตนได้รับรายงานจากเขตสุขภาพที่ 11 มีความพร้อมรับสถานการณ์ที่ภูเก็ต ไม่ใช่ว่าเราเจอติดเชื้อแล้วจะต้องหยุด หรือยกเลิกทุกอย่าง เราต้องดูการติดเชื้อเทียบกับผู้ที่มีอาการรุนแรงหรือผู้ยังไม่ได้รับวัคซีน เราก็ต้องแยกออกมา ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการก็สามารถเข้าระบบแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) หรือศูนย์พักคอยในชุมชน (Community Isolation) เพื่อให้ทุกอย่างยังดำเนินต่อไปได้ ทั้งนี้ สถานการณ์ติดเชื้อยังอยู่ในการคาดการณ์รองรับไว้อยู่แล้ว และได้วางระบบสาธารณสุขไว้ดูแล

 

 

“สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เราคาดการณ์อยู่แล้ว เพราะเมื่อเปิดกิจกรรมต่างๆ ในภูเก็ต ก็เปรียบเสมือนห้องรับแขกของเรา เป็นที่ที่จะทำให้เห็นว่าประเทศไทยจะมีการเปิดแซนด์บ็อกซ์ไปแต่ละจังหวัดๆ มีการเตรียมระบบสาธารณสุขรองรับผู้ป่วย” นายอนุทิน กล่าว

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่ากรณีที่ภูเก็ตจะกระทบกับแผนการเปิดประเทศอื่นๆ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราสู้เต็มที่ ไม่ให้เกิดผลกระทบ

 

 

เมื่อถามว่า นายกฯ มีข้อสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการควบคุมโรคนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทำงานกันอย่างเต็มที่ทุกวัน ทุกพื้นที่ไม่เฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น ให้ดูทั้งประเทศให้มีความปลอดภัย และเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็อนุมัติงบจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จากกลุ่มประเทศยุโรป เพื่อฉีดเป็นเข็ม 3 ให้ประชาชน ทั้งนี้ วัคซีนเรามีมากขึ้น และศักยภาพในการฉีดก็เพิ่มขึ้นด้วย

 

 

“อย่างที่มีใครบอกว่าจะฉีดต้องข้ามไปปีหน้า กลางปีหน้า วันนี้ไม่มีใครพูดแล้ว ทุกอย่างต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แสดงให้เห็นแล้วว่า เราไม่ได้ขาดวัคซีน ปีนี้จะฉีดให้ครอบคลุมประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น การจัดหาวัคซีนในปี 2565 ก็จะไม่ตึงเครียดมากนัก เพราะเป็นการเน้นจัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่ต้องกันไว้เป็นเข็ม 2 อีก รวมถึงปีต่อๆ ไปสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย ที่มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดทุกปี” นายอนุทิน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง