เผยวิธีคนใกล้ชิดควรปฏิบัติอย่างไรกับ ‘ผู้ป่วยซึมเศร้า’

วันนี้ ( 24 ก.ย. 63 )จากกรณีด.ช.เอก (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พยายามจะกระโดดลงจากสะพานลอย โดยสาเหตุเกิดจากถูกรถสหกรณ์สองแถวเบี้ยวไม่ทอนเงิน จึงเกิดความโมโหและน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต จึงตัดสินใจ เขียนจดหมายลาครูและเพื่อนๆ หวังฆ่าตัวตายลาโลก แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่และเพื่อนๆช่วยเหลือไว้ได้ 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นทราบว่า ตัวเด็กมีปัญหาครอบครัว และยังมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรับประทานยารักษาอยู่ตลอดเวลา 

นพ.ธีรเจต ลีลาพากเพียร หมตจิตแพทย์ ได้พูดถึงกรณีที่โดดสะพานนั้นต้องเป็นแพทย์ที่ทำการรักษาแต่ที่ดูแล้วเข้าข่ายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอาการนั้นถึงขั้นกลางถึงรุนแรง ในส่วนที่คนที่อยู่รอบๆของคนที่มีอาการซึมเศร้าอย่างแรกนั้นอยากให้ดูแลด้านจิตใจเบื้องต้นต้องดูสภาพจิตใจเราก่อน ก่อนที่จะไปฟื้นฟูจิตใจคนป่วย

เราต้องพยายามดึงอารมณ์ตัวเองก่อนเพื่อจะช่วยเหลือคนที่ป่วย ซึ่งคนในครอบครัวถือว่าเป็นจิตแพทย์คนแรกของคนป่วย อย่างเช่นกรณีน้องนั้นเพื่อนได้ไปล้อน้องอาจไม่ได้คิด ทำให้น้องที่เป็นโรคซึมเศร้าทำให้กระตุ้นความรู้สึกของน้อง 

อยากให้สังเกตว่าเพื่อนทำอะไรช้าลงไหม ไม่พูดไม่จา อยากให้คนที่อยู่รอบข้างเข้าพูดคุยทักถามถึงความรู้สึก มากกว่าไปถามว่าเจออะไรมาแล้วไปออกความคิดเห็น บางทีคนเราละเลยในการถามความรู้สึกซึ่งกันและกันทำให้มีโรคซึมเศร้าเยอะขึ้น