ไม่พบสารส่วนประกอบระเบิด จากชิ้นส่วนเครื่องบินตกในจีน
วันนี้ (28 มี.ค.65) หัวหน้าเจ้าหน้าหน่วยดับเพลิงกว่างซี ซึ่งลงพื้นที่ปฎิบัติการในจุดเครื่องบินตก เปิดเผยว่า ไม่พบสารอนินทรีย์หรือสารอินทรีย์ที่เป็นส่วนประกอบของระเบิด บริเวณจุดเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ตกในอำเภอเถิงเซี่ยน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์และเคมีของหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะของจีน ได้ทำการตรวจสอบตัวอย่างชิ้นส่วนเครื่องบินจำนวน 41 ชิ้น จากตัวอย่าง 66 ชิ้น ที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุ ปรากฎว่า ไม่พบสารประกอบไอออนสำคัญที่ใช้ในการประกอบวัตถุระเบิดอนินทรีย์ทั่วไป ทั้งยังไม่พบสารอินทรีย์ที่ใช้ประกอบระเบิดทั่วไปเช่นกัน
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์อัตลักษณ์ชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบบริเวณจุดเครื่องบินตก โดยเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากครอบครัวผู้โดยสาร และมีการยืนยันตัวตนของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินแล้วจำนวน 120 ราย โดยเป็นผู้โดยสาร 114 ราย และลูกเรือ 6 ราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหน่วยดับเพลิงได้ปฎิบัติการค้นหาเป็นพื้นที่รวมกว่า 240,000 ตารางเมตร หรือราว 150 ไร่แล้ว นับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม และยังมีทีมค้นหาในพื้นที่รอบนอกอีกจำนวน 4 ทีม ซึ่งได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ตลอดเส้นทางบินประมาณ 50 เฮกตาร์ หรือ ราว 312 ไร่ โดยยึดจุดเกิดเหตุเป็นจุดเริ่มต้น
แม้จะพบกล่องดำบันทึการบินทั้ง 2 กล่องแล้ว เจ้าหน้าที่พนักงานดับเพลิง แพทย์ และเจ้าหน้าที่สอบสวนอีกกว่าร้อยชีวิต ยังคงปฎิบัติหน้าที่ในจุดเครื่องบินตกเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนเครื่องบิน และพยายามคลี่คลายปริศนาของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ที่ถือเป็นเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ร้ายแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของจีน
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน สั่งตรวจสอบสาเหตุของเครื่องบินตกทันที ขณะที่หน่วยงานการบินประกาศตรวจสอบความปลอดภัยในเครื่องบินของสายการบินทั้งหมดภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์
ภาพจาก รอยเตอร์