โผ ครม. "แพทองธาร 1" ล่าสุด: จัดทัพรัฐมนตรีรับมือความท้าทาย
หลังจากการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ความสนใจของประชาชนก็มุ่งไปที่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและแก้ไขปัญหาของประเทศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 มีการอัปเดตโผ ครม. "แพทองธาร 1" ที่เผยให้เห็นถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีที่น่าสนใจ
ทีมเศรษฐกิจ: เน้นฟื้นฟูและกระตุ้น
กระทรวงการคลัง: นำโดย พิชัย ชุณหะวชิร รองนายกรัฐมนตรี ควบคู่กับ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ เผ่าภูมิ โรจนสกุล ซึ่งน่าจะมุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 และกระตุ้นการลงทุน
กระทรวงพาณิชย์: พิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ร่วมกับ นภินทร ศรีสรรพางค์ และ สุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งน่าจะเน้นการส่งเสริมการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
กระทรวงพลังงาน: พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรพลังงานและกำหนดนโยบายด้านพลังงานของประเทศ
ทีมบริหารและความมั่นคง: เน้นเสถียรภาพและความปลอดภัย
กระทรวงมหาดไทย: อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี คุมเอง พร้อมด้วย ทรงศักดิ์ ทองศรี, ชาดา ไทยเศรษฐ์ และ ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช ซึ่งน่าจะให้ความสำคัญกับการรักษาความสงบเรียบร้อยและการบริหารจัดการภายในประเทศ
กระทรวงกลาโหม: ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการฯ ร่วมกับ พลเอกณัฐพล นาคพานิช ซึ่งน่าจะมุ่งเน้นการรักษาความมั่นคงและเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทัพ
กระทรวงยุติธรรม: พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งน่าจะมุ่งเน้นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสร้างความเป็นธรรมในสังคม
ทีมพัฒนาคุณภาพชีวิต: เน้นการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม
กระทรวงศึกษาธิการ: พลตำรวจเอกเพิ่มพูล ชิดชอบ และ สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ร่วมกันบริหาร ซึ่งน่าจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
กระทรวงสาธารณสุข: สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ พร้อมด้วย เดชดิศม์ ขาวทอง ซึ่งน่าจะเน้นการพัฒนาระบบสาธารณสุขและการรับมือกับโรคระบาด
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: เฉลิมชัย ศรีอ่อน รับหน้าที่ ซึ่งน่าจะมุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โผ ครม. "แพทองธาร 1" นี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการจัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อรับมือกับความท้าทายและขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม การจัดตั้ง ครม. ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต เราต้องติดตามกันต่อไปว่า ครม. ชุดใหม่นี้จะสามารถนำพาประเทศไทยไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่
ภาพ TNN