UNSC จัดประชุมหารือเรื่องความเสี่ยงของปัญญาประดิษฐ์ AI ครั้งแรก
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) จัดการประชุมเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอเป็นครั้งแรก โดยหารือเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีเอไอที่มีต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก เมื่อวันอังคารที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
โดยมองว่าการใช้เอไอในทางที่ผิด เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อการร้าย อาจก่อให้เกิดการเสียชีวิตและการทำลายล้างในวงกว้าง และสร้างความเสียหายทางจิตใจอย่างลึกล้ำในระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ และหากไม่มีการดำเนินการเพื่อจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ ก็จะเหมือนกับการละทิ้งหน้าที่รับผิดชอบที่มีต่อคนรุ่นปัจจุบันและในอนาคต
ซึ่ง กูเตอร์เรส มองว่า ภายในปี 2026 สหประชาชาติควรจัดทำข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อห้ามการใช้เอไอในอาวุธสงครามแบบอัตโนมัติ ซึ่งทำงานโดยปราศจากการควบคุมหรือการกำกับดูแลของมนุษย์ นอกจากนี้ยังให้คำมั่นว่าจะรวบรวมสภาที่ปรึกษาที่จะพัฒนาข้อเสนอสำหรับการควบคุมเอไอในวงกว้างมากขึ้นให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้
นอกจากตัวแทนสมาชิก 15 ชาติ ได้แก่ จีน ฝรั่งเศส สหพันธรัฐรัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสมาชิกไม่ถาวรสิบชาติได้แก่ แอลเบเนีย บราซิล เอกวาดอร์ กาบอง กานา ญี่ปุ่น มอลตา โมซัมบิก สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการประชุมครั้งนี้ ยังมีเสียงจากภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเข้าร่วมเช่นกัน โดย แจ็ก คลาร์ก (Jack Clark) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไอเอ แอนทรอพิก (Anthropic) กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคง ผ่านการประชุมทางไกล โดยเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก อย่าปล่อยให้บริษัทเอกชนครอบงำการพัฒนาเอไอไว้เพียงฝ่ายเดียว
ความกังวลเรื่องของเอไอนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ในสหประชาชาติ เพราะก่อนหน้านี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหภาพยุโรป ก็เคยเรียกร้องให้ผู้นำโลกจัดการประชุมเพื่อหาทางควบคุมการพัฒนาเอไอมาแล้ว และแม้กระทั่งชาติมหาอำนาจอย่างจีน ก็เคยออกระเบียบควบคุมการใช้ เจนเนอเรทีฟ ไอเอ (Generative AI) หรือปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์
และนี่ก็เป็นบรรยากาศการประชุมส่วนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่านานาประเทศเห็นความสำคัญของการจัดตั้งข้อบังคับในการควบคุมเทคโนโลยีเอไอ ที่นับวันยิ่งพัฒนาและใช้งานแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์สุขและสันติภาพร่วมกันของมนุษย์ทั้งโลกกับเทคโนโลยีนั่นเอง
ข้อมูลจาก edition.cnn.com, news.sky.com, reuters.com