SMTควัก150ล้าน ตะลุยขุดบิทคอยน์ ชูผลงานดีกว่าคาด
#SMT #ทันหุ้น - บอร์ด SMT ทุ่มงบไม่เกิน 150 ล้านบาท ขยายไปยังธุรกิจใหม่ในการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ ในช่วงแรกจะซื้อเครื่องขุด 200 เครื่องใช้เงินราว 40 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ใหม่ พร้อมประกาศงบไตรมาสแรกปีนี้โกยกำไร 57 ล้านบาท เติบโต 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งดีกว่าโบรกเกอร์คาดพร้อมมองแนวโน้มไตรมาส 2/2565 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายบรรยงค์ สวัสดิ์ กรรมการและเลขานุการบริษัท บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 150ล้านบาท โดยจะจัดซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ในระยะแรกจำนวน 200เครื่อง วงเงินประมาณ 40 ล้านบาท บริษัทได้จัดเตรียมสถานที่ ระบบไฟฟ้า ระบบอินเทอร์เน็ต และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัท
ทั้งนี้ การลงทุนใหม่ดังกล่าว เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท โดยคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรและระบบต่างๆ โดยทยอยแบ่งการลงทุนเป็นหลายระยะ
โดยคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยได้พิจารณาข้อได้เปรียบของบริษัท ที่เป็นผู้ผลิตและมีความสามารถในการบำรุงรักษาเครื่องขุดบิทคอยน์ได้เอง บริษัทได้พิจารณาความเสี่ยงและมาตรการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความผันผวนของราคา อัตราแลกเปลี่ยนและต้นทุนที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีความพร้อมของระบบงานและบุคลากรโดยบริษัท เป็นผู้ผลิตเครื่องขุดบิทคอยน์ จึงมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) มีมุมมองที่ SMT เข้าไปลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เป็นกลางค่อนไปทางลบ เพราะใช้เงินลงทุนสูง ขณะที่ราคาบิทคอยน์มีความผันผวน อีกทั้งยังไม่เกิด Synergy กับธุรกิจปัจจุบัน แต่ก็แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 6 บาทต่อหุ้น โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2565ที่ 237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.9%โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/2565 มีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ จาก Lead Time ของวัตถุดิบที่สั้นลงเหลือ 4-5 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ยาวถึง 9-12 เดือน ขณะที่ผลกระทบจากสงครามยังจำกัด และไม่ได้รับผลกระทบจากจีนล็อกดาวน์
**กำไร Q1/65 ดีกว่าคาด
SMT แจ้งว่าไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 56.84 ล้านบาท เติบโต 11.8%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้จากการขายสินค้าและบริการจำนวน 590.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.73 ล้านบาท หรือ 8.19% โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ PCBA และ IC ซึ่งเติบโต 128.60% และ 4.80% ตามลำดับ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ การขาดแคลนวัตถุดิบ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า SMT รายงานกำไรสุทธิดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และหากตัดรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยยอดขายกลับมาโตดีกว่าคาดจากสถานการณ์วัตถุดิบที่ดีขึ้น ทำให้สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และมีค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายมีสัดส่วน 11.9% ลดลงจาก 15.2% ในไตรมาส 4/2564 โดยประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2565 อยู่ที่ 275 ล้านบาท เติบโต 31% ยังไม่นับรวมธุรกิจใหม่ขุดเหมืองบิทคอยน์แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 6.30 บาทต่อหุ้น
นายภควัต พิสุทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ ลูกค้ารายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอสซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กำไรไตรมาส 1/2565 ของ SMT ออกมาดีกว่า Consensus คาดประมาณ 5%และการประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท เป็น Sentiment บวกต่อการลงทุน คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 เติบโต มีปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทคำสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 75% ของเป้าหมายในปีนี้ โดยผู้บริหารให้ข้อมูลว่าในไตรมาส 2 จะมีคำสั่งซื้อประมาณ 800 ล้านบาท และสามารถรับรู้เป็นรายได้จำนวน 680 – 700ล้านบาท และยังได้อานิสงค์บวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสนี้ และ Utilization Rate ที่ดีขึ้น รวมไปถึง Gross Margin ที่น่าจะทรงอยู่ที่ระดับ 19 – 20%
ขณะที่ราคาหุ้นมี Upside เพิ่มเติมจากการเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ จะช่วยต่อยอดรายได้และเพิ่มโอกาสในทางธุรกิจให้กับบริษัทในอนาคต