รีเซต

ชิง 'อบจ.' ขายสุรา-เบียร์พุ่ง เขย่าตลาดแอลกอฮอล์ 3.7 แสนล.

ชิง 'อบจ.' ขายสุรา-เบียร์พุ่ง เขย่าตลาดแอลกอฮอล์ 3.7 แสนล.
มติชน
23 พฤศจิกายน 2563 ( 13:43 )
420

แหล่งข่าวจากสมาคมค้าปลีกและสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ ว่า ยอดคำสั่งซื้อดีขึ้น ปัจจัยสนับสนุนให้การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีขึ้นและตัวเลขกลับเป็นบวก 20-30% ทั้งในกลุ่มเบียร์ และสุรากลั่น ได้แก่ 1. กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการชิมช้อปใช้ โครงการเราเที่ยวไปด้วยกัน และแคมเปญกระตุ้นยอดขายของผู้ผลิตช่วงส่งท้ายปี ซึ่งได้เริ่มยอดขายตามร้านค้าอาหาร การเลี้ยงสังสรร งานมงคลสมรส งานสัมมนา และเตรียมเป็นกระเช้าของขวัญขององค์กรต่างๆ 2. กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเลี้ยงสังสรรและขอบคุณในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ทำให้เกิดการสั่งซื้อเบียร์และสุราก่อนเลือกตั้งและเตรียมไว้ฉลองหลังการเลือกตั้งเพิ่มเป็นเท่าตัว

 

นายธนากร คุปตจิตต์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เปิดเผยว่า เห็นได้ชัดว่า ขณะนี้ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากรัฐบาลผ่อนล็อกการเปิดให้ธุรกิจและค้าปลีกเปิดได้ตามปกติ ผนวกกับกำลังซื้อในประเทศเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงปัจจุบัน บรรยากาศการจับจ่ายใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีขึ้น ผลทางอ้อมจากมาตรการรัฐกระตุ้นการใช้จ่าย เมื่อประชาชนออกมาทานอาหารนอกบ้านหรือจัดงานเลี้ยงสรรและผ่านการใช้คนละครึ่ง เมื่อจ่ายเงินก็จะมีเครื่องดื่มอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งถือว่ารัฐบาลมาดูทางในการกระตุ้นใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง ก็ขอสนับสนุนให้ต่อโครงการคนละครึ่งเฟสสอง ก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่และหยุดยาวต่อเนื่องถึงปีหน้า

 

“ส่วนตัวเชื่อว่าปีใหม่นี้การใช้จ่าย การสังสรรในประเทศจะคึกคัก แต่ในแง่ของภาพรวมของอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวและกลับมามีมูลค่าตลาดถึง 3.7 แสนล้านบาท เท่ากับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือไม่ เบื้องต้นอาจไม่ถึง เพราะอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไทยยังเป็นการพึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลัก เกินครึ่ง บางปีถึง 70% เพราะต่างชาตินิยมซื้อสุรายี่ห้อดังและมีราคาสูงด้วย แต่การบริโภคในไทยจะเป็นการดื่มเบียร์และสุราภายในประเทศมากกว่า และคนไทยที่การดื่มประจำมีเพียงสัดส่วน 30% ของการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทั้งระบบ ซึ่งในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประชุมของสมาชิกสมาคมฯ จะมีความชัดเจนในเรื่องตัวเลขตลาดรวม ที่ได้จากการรวบรวมของผู้ผลิตและผู้จำหน่ายที่เป็นสมาชิกสมาคม ” นายธนากร กล่าว

 

นายธนากร กล่าวต่อว่า อีกปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ปีนี้ คือการใช้จ่ายซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของการเลือกตั้งอบจ. ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม และดูผลหลังการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 32 เกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่ยกเลิกกฎหมายห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ทางอิเล็กทรอนิกส์ประกาศ เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา และบังคับใช้ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ซึ่งยอมรับว่ามีผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยทั่วไปและค้าปลีกที่มีการโฆษณาสินค้าทางออนไลน์ด้วย ทั้งนี้ สมาคมฯยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือรณรงค์เมาไม่ขับและห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้กับเยาวชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง