เรือน้ำมันของกลาง 3 ลำถึงสงขลาแล้ว
เมื่อช่วงเช้าวานนี้(17มิ.ย.) ขณะตำรวจน้ำติดตามจับกุมเรือดาวรุ่ง เป็น 1 ใน 3 ลำ เรือขนน้ำมันเถื่อนของกลางที่หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ โดยไปจับกุมได้ในเขตน่านน้ำเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ EEC จากนั้นก็เข้าควบคุมเรือ เจพี และ เรือกำไรเงิน ขณะลอยลำอยู่ไม่ไกลกันมากนัก
ตำรวจน้ำได้ประกบเรือทั้ง 3 ลำ เทียบท่าที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลา จากการตรวจสอบเรือ กำไรเงิน พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงรูปพรรณเรือ โดยทาสีจากสีแดงเป็นสีเขียวที่พื้นเรือ/ส่วนเรือดาวรุ่ง เป็นเรือลำที่เครื่องยนต์เสียทำให้เดินทางช้า
และเมื่อเรือทั้ง 3 ลำ เทียบท่าแล้ว ตำรวจกองปราบปรามได้แจ้งข้อหากับลูกเรือจำนวน 8 คนทั้งหมดเป็นชาวไทย ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและข้อหาลักทรัพย์ หลังแจ้งข้อหาแล้วเสร็จตำรวจกองปราบปราม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ให้ผู้ต้องหานำตรวจค้นบนเรือ และเก็บดีเอ็นเอ เก็บพยานหลักฐาน เอกสารบนเรือ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี
ส่วนเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน ได้ใช้กระป๋องน้ำตัดครึ่งผูกกับท่อพีวีซี หย่อนลงไปตักน้ำมันในถังขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าแต่ละลำเหลือน้ำมันติดก้นถังเท่านั้น การสอบสวนสืบสวน พบว่า มีการนำน้ำมันไปขายที่ประเทศกัมพูชาแล้ว
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่า น้ำมันในเรือของกลางกว่า 330,000 ลิตร ขณะนี้มีเหลืออยู่ไม่มาก ซึ่งน้ำมันบางส่วนได้มีการจำหน่ายไประหว่างหลบหนี รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท /และในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะโดนทั้งคดีอาญาและทางวินัย เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจนเกิดความเสียหายแก่ภาครัฐ ซึ่งจะดำเนินการอย่างที่สุดโดยไม่ละเว้นและขอให้ลูกเรืออีก 7 คนที่หลบหนีเข้ามอบตัวโดยเร็ว เพื่อเป็นประโยชน์แก่รูปคดี/ ส่วนลูกเรือ 8 คนก็จะนำตัวไปฝากขังที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่กองปราบปรามวันนี้ (18มิ.ย.67)