รีเซต

4 คาถาป้องกันภัย! โจรไซเบอร์อ้างเป็นจนท. หลอกลงแอปฯดูดเงิน

4 คาถาป้องกันภัย! โจรไซเบอร์อ้างเป็นจนท. หลอกลงแอปฯดูดเงิน
TNN ช่อง16
27 มกราคม 2566 ( 16:14 )
47

วันนี้ (27 ม.ค. 66) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและผู้เสียหายว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ ขอให้อัพเดทข้อมูลนิติบุคคล โดยใช้กลอุบายให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไลน์ที่เป็นบัญชีปลอมเพื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ บัตรประชาชน อีเมล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น จากนั้นมิจฉาชีพจะเข้าระบบดูดเงินจากในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายออกไป

ขณะนี้มีประชาชนผู้ประสบเหตุและผู้เสียหายได้ติดต่อมายังกรมฯ จำนวนเพิ่มขึ้น ผ่านทางสายด่วน 1570 อีเมล และช่องทาง Social Media ของกรมฯ เพื่อแจ้งถึงกรณีดังกล่าว มากไปกว่านั้นยังขยายความเดือดร้อนไปถึงนิติบุคคลต่างประเทศที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งใช้กลอุบายหลอกลวงแบบเดียวกัน แต่เป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งการกระทำนี้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติได้

 "กรมฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนอยู่เป็นระยะ รวมถึงวิธีการป้องกันตัวเอง เพื่อให้นิติบุคคลและประชาชนระมัดระวังตัว ไม่หลงเชื่อ และกรมฯ ไม่มีนโยบายที่จะติดต่อหรือทักหาประชาชนไปก่อน หรือให้อัพเดทข้อมูลผ่านระบบไลน์" นายทศพล กล่าว

 นายทศพล กล่าวต่อว่า กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการในเชิงรุก จัดตั้ง "คณะทำงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมกรมพัฒนาธุรกิจการค้า" เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการหลอกลวงนี้ โดยจะรับแจ้งเรื่องประกอบกับส่งหลักฐานที่มีสำหรับนำไปแจ้งตำรวจ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับมิจฉาชีพทุกรายที่นำชื่อและตราสัญลักษณ์ของกรมฯ ที่เป็นหน่วยงานราชการไปหลอกประชาชน

ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้สกัดกั้นการกระทำลักษณะนี้ไม่ให้ขยายวงกว้าง รวมไปถึงกรมฯ ยังได้ส่งต่อหลักฐานให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับภาคประชาชนและธุรกิจ ขอย้ำเตือนว่า การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลในยุคนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง มิเช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อของโจรไซเบอร์โดยไม่รู้ตัว และการป้องกันตัวใน 4 รูปแบบยังคงมีความสำคัญ คือ

1. ก่อนเข้าเว็บไซต์ต้องเช็คตัวสะกดของ URL ให้ดี

2. ไม่กดลิงก์/ SMS/ โหลดแอปพลิชันที่ไม่รู้จัก หรือได้รับแชร์

3. ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวน

4. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 

หากมีข้อสงสัยและศึกษาข้อมูลอื่นๆ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และเฟซบุ๊ก DBD Public Relations

ภาพจาก : AFP 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง