ผู้เชี่ยวชาญชี้โควิด-19 ระบาดซ้ำในชิงเต่า ไม่ใช่ผลพวงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว

(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนเข้าแถวรอที่จุดตรวจโรคโควิด-19 ในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2020)
ปักกิ่ง, 15 ต.ค. (ซินหัว) -- อู๋จุนโหย่ว หัวหน้านักระบาดวิทยาอาวุโสจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน เผยว่าการระบาดซ้ำของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในเมืองชิงเต่าทางตะวันออกของจีนมีขอบเขตจำกัด และไม่ใช่การระบาดที่จะปรากฏในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
รัฐบาลเมืองชิงเต่าให้คำมั่นว่าจะดำเนินการทดสอบกรดนิวคลีอิกทั่วทั้งเมืองภายใน 5 วัน ซึ่งครอบคลุมผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 11 ล้านคน เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ต.ค.) หลังจากพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหม่ในท้องถิ่น
จนถึงเวลา 8.00 น. ของวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) มีการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจในประชาชนแล้วมากกว่า 9.94 ล้านคน และดำเนินการทดสอบตัวอย่างที่เก็บรวบรวมได้ไปแล้วกว่า 7.64 ล้านชิ้น ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบตัวอย่างที่มีผลเป็นบวกเพิ่มเติม ยกเว้นกรณีที่รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้
จนถึงวันพุธ (14 ต.ค.) ไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งนำไปสู่การค้นพบผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลโรคทรวงอกชิงเต่า ซึ่งเคยใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จากต่างประเทศ
อู๋เผยว่าจากการตรวจสอบทางระบาดวิทยาและผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกในขณะนี้ พบว่าการติดเชื้อครั้งนี้ไม่ใช่การระบาดที่จะกลับมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว และไม่มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติ
อู๋กล่าวว่าการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนาดใหญ่เป็นวิธีการทางเทคนิคที่สำคัญมากในการทำความเข้าใจขนาดของการแพร่ระบาด
เขาอ้างอิงการวิเคราะห์ผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน และเผยว่ากิจกรรมของผู้ป่วยในชิงเต่าที่เพิ่งรายงานเมื่อไม่นานมานี้ส่วนใหญ่จำกัดอยู่ที่โรงพยาบาลโรคทรวงอกชิงเต่า
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
