รีเซต

ปธ.สภาอุตสาหกรรมโคราช แนะ รัฐบาลฟังเสียงม็อบบ้าง เชื่อยิ่งนาน แนวร่วมยิ่งเพิ่ม

ปธ.สภาอุตสาหกรรมโคราช แนะ รัฐบาลฟังเสียงม็อบบ้าง เชื่อยิ่งนาน แนวร่วมยิ่งเพิ่ม
มติชน
29 กรกฎาคม 2563 ( 09:10 )
131

ประธานสภาอุตสาหกรรมโคราช แนะรัฐบาลจัดทีมพูดคุยกับม็อบเยาวชนปลดแอก ระบุนักธุรกิจไม่กล้าลงทุนในสถานการณ์เช่นนี้

 

นครราชสีมา – วันนี้ (29 กรกฎาคม 2563) นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ของกลุ่มเยาวชนปลดแอกว่า เรื่องนี้ตนเองมองว่ากลุ่มเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหว ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะเริ่มมีการขยายวงกว้างไปสู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทยแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่าม็อบครั้งนี้ยังจุดไม่ติด แต่ในใจน้องๆ นักศึกษาเองน่าจะจุดติดแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐบาลเองก็ต้องออกมาดูแลและรับฟังเสียงของพวกเขาอย่างเท่าเทียมกัน อย่าไปดูถูกพลังของกลุ่มเยาวชนว่าเป็นเรื่องเล็ก และให้นักการเมืองบางคนมาพูดเหน็บแนมว่าเป็นม็อบมุ้งมิ้ง ม็อบจัดตั้ง เพราะยิ่งจะสร้างความไม่พอใจให้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงได้

 

ส่วนข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ให้ยุบสภา 2.หยุดคุกคามประชาชน และ 3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่นั้น เชื่อว่ารัฐบาลรับไม่ได้แน่นอน แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ รัฐบาลต้องรีบส่งทีมงานเข้ามาพูดคุยกับกลุ่มเยาวชน เพื่อต่อรองว่า หากข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อทำไม่ได้ แล้วจะมีอะไรบ้างที่จะร่วมกันหาทางออก เพราะถ้าไม่รีบเข้ามาพูดคุยกันตั้งแต่ตอนนี้ ตนเชื่อว่าม็อบจะมีแนวร่วมเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน เนื่องจากขณะนี้หลายคนก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจในการบริหารประเทศของรัฐบาล รวมทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ และสังคม ที่กำลังเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ก็ยิ่งทำให้คนมีอารมณ์ร่วมกับม็อบไล่รัฐบาลได้ง่ายขึ้น จริงอยู่ในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลได้ความชอบธรรมมาจากเสียงสนับสนุนของ ส.ส.ที่มาจากคะแนนเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ก็ต้องเคารพสิทธิ์ความเห็นต่างของเสียงส่วนน้อยด้วย ซึ่งเสียงจากเยาวชนกลุ่มนี้ก็มีเหตุมีผลที่มาจากปัญหาบางอย่าง ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องมาพูดคุยกันถึงปัญหาเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดม็อบขยายตัวไปเรื่อยๆ เช่นนี้

 

เพราะในส่วนของนักธุรกิจ นักลงทุน เมื่อเห็นสถานการณ์ม็อบเกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคเช่นนี้ เขาย่อมไม่กล้าที่จะลงทุน แม้ว่ารัฐบาลจะไปขอร้องให้ช่วยกันลงทุน แต่จะเอาอะไรมารับประกันให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้ ใครจะกล้านำเงินมหาศาลไปลงทุน ขณะเดียวกันตนเองก็ฝากถึงกลุ่มเยาวชนปลดแอกด้วยว่า ข้อเรียกร้องบางอย่างที่รัฐบาลทำไม่ได้ แล้วอะไรจะพอเจรจาพูดคุยกันได้บ้าง เพราะการยุบสภา และให้นายกรัฐมนตรีลาออกในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ อาจจะทำให้เกิดช่องว่างในการบริหารประเทศ และเกิดความเสียหายต่อประเทศได้ไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นเราต้องมาพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผลจึงจะเหมาะสมกว่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง