เจ้าอาวาสวัดจุฬามณีปัดจ่ายให้ผู้ว่าฯเดือนละ 2 ล้าน อำนวยความสะดวก เตรียมเปิด 14 พ.ค.นี้
เจ้าอาวาสวัดจุฬามณีปัดจ่ายเงินให้ผู้ว่าฯเดือนละ 2 ล้าน ย้ำไม่มีเหตุจำเป็นที่ปิดวัด เพราะป้องกันโควิด และปรับปรุงภายในวัด เผยเตรียมเปิดวัดวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีข่าวลือว่า วัดจุฬามณีต้องจ่ายเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเดือนละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าอำนวยความสะดวก ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ พระครูโสภิตวิริยาภรณ์ (อาจารย์อิฐฏ์) เจ้าอาวาสวัดจุฬามณี เพื่อสอบถามถึงข่าวลือดังกล่าว ซึ่งเจ้าอาวาสได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูสถานที่ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์สำหรับอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่กำลังก่อสร้างไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเสร็จกลางเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเปิดวัดให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด รวมทั้งท้าวเวสสุวรรณโณ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
พระครูโสภิตวิริยาภรณ์กล่าวว่า ข่าวลือว่าวัดจุฬามณีต้องจ่ายเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเดือนละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าอำนวยความสะดวกนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่เคยต้องจ่ายเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือแม้แต่หน่วยงานต่างๆ แต่อย่างใด มีแต่ส่วนราชการจะเข้ามาอำนวยความสะดวก และสอบถามถึงความจำเป็นต้องใช้ที่ราชการสามารถสนับสนุนได้ นอกจากนี้ การเงินในวัดจะต้องมีกรรมการเป็นพระสงฆ์ 2 รูป คือเจ้าอาวาส 1 รูป พระสงฆ์ 1 รูป และไวยาวัจกรอีก 3 คน เป็นผู้ดูแล จะเบิกจ่ายแต่ละครั้งต้องเซ็นพร้อมกันเท่านั้น
พระครูโสภิตวิริยาภรณ์กล่าวว่า ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวที่วัดจุฬามณีเส้นใหญ่ ไม่ยอมปิดวัด ปล่อยให้มีประชาชนหลายหมื่นคนเข้ามาไหว้ท้าวเวสสุวรรณ หวั่นเกรงว่าจะเกิดคลัสเตอร์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ยืนยันว่าไม่มีเส้นสายใดๆ แต่อาศัยคุณธรรมและการกระทำที่ผ่านมาเป็นเครื่องการันตรีความโปร่งใส ซึ่งที่จริงแล้วทางวัดต้องการเปิดวัด เพราะสงสารชาวบ้านที่ทำมาหากิน
“อาตมาเกิดที่อัมพวา รู้จักบุญคุณของชาวอัมพวาที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก จึงต้องการจะตอบแทนคุณแผ่นดิน จึงเปิดวัดให้ชาวบ้านในพื้นที่มาขายของในวัดฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่มีข้อแม้ว่าญาติพี่น้องเจ้าอาวาสห้ามเข้ามาขาย เดี๋ยวจะหาว่าญาติมาทำมาหากินในวัดนี้
“เมื่อมีประชาชนเดินทางมาเยอะ ทำให้เศรษฐกิจดี ทั้งทางตรงคือชาวบ้านที่มาค้าขายทั้งในวัดที่เต็มพิกัด และบริเวณรอบๆ วัดไปจนถึงริมถนนต่างๆ ค้าขายได้ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทางอ้อมคือโรงแรม รีสอร์ต ที่พักต่างๆ ก็มีนักท่องเที่ยวมาจองพักกันจำนวนมาก อีกทั้งแหล่งผลิตสินค้าต่างๆ ก็เกิดผลพลอยได้ มีรายได้จากการขายสินค้าให้กับผู้ค้ามาขายที่วัดจุฬามณีเพิ่มขึ้นด้วย” พระครูโสภิตวิริยาภรณ์กล่าว
เจ้าอาวาสวัดจุฬามณีกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังขอให้ ผู้ที่จะมาแก้บนเปลี่ยนจากประทัดเป็นข้าวสาร เพื่อทางวัดจะได้นำไปแจกจ่ายผู้จำเป็น ล่าสุดถวายเจ้าคณะภาค 15 ไป 10 ตัน มอบให้โรงเรียนต่างๆ และผู้ยากไร้ทั้งในและนอก จ.สมุทรสงคราม ด้วย
ส่วนสาเหตุที่ปิดวัดจุฬามณีนั้น พระครูโสภิตวิริยาภรณ์กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 รุนแรงมาก วัดจึงประกาศปิดวัดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และเปิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะนั้นมีการระบาดรุนแรงขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมรองผู้ว่าฯ และนายอำเภออัมพวาเข้ามาหารือ ประกอบกับช่วงนั้นเมรุเก่าที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าท้าวเวสสุวรรณโณกำลังจะพัง จึงเห็นตรงกันว่าให้ปิดวัดจุฬามณีตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เพื่อรื้อเมรุเก่าป้องกันป่องเมรุพังลงมาเป็นอันตรายกับประชาชนที่เข้าวัดจุฬามณีวันละหลายหมื่นคน
“นอกจากนี้ ยังบริหารจัดการภายในวัด เช่น กำจัดขยะวันละ 5 ตัน เคลียร์พื้นที่ต่างๆ รื้อเมรุ ทำเป็นลานอเนกประสงค์ และสร้างอาคารอเนกประสงค์ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เป็นต้น คาดว่าจะเสร็จเร็วๆ นี้ และจะเปิดวัดให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด รวมทั้งท้าวเวสสุวรรณโณในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้” เจ้าอาวาสวัดจุฬามณียืนยัน