รีเซต

สารเคมีฆ่าเชื้อ 'คว่ำ' ไหม้โรงงานแปรรูปอาหาร สมุทรสงคราม พนง.ร่วมร้อย หนีตายระทึก

สารเคมีฆ่าเชื้อ 'คว่ำ' ไหม้โรงงานแปรรูปอาหาร สมุทรสงคราม พนง.ร่วมร้อย หนีตายระทึก
มติชน
11 พฤศจิกายน 2565 ( 22:44 )
81

สารโซเดียมไฮโปรชัลไฟด์ ‘หกกระแทกพื้น’ ไฟลุกไหม้ โรงงานผลิตและแปรรูปอาหารกระป๋อง จ.สมุทรสงคราม คนงานหนีตายระทึก โชคดีเจ้าหน้าที่มีประสบการณ์ระงับเหตุทันไม่มีผู้บาดเจ็บรุนแรง หรือเสียชีวิต อบต.บางแก้ว จ่อตรวจสอบการอนุญาตจัดเก็บสารเคมี

 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ โรงงานผลิตและแปรรูปอาหารกระป๋องแห่งหนึ่ง ในจ.สมุทรสงคราม จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม, อบต.บางแก้ว รวม 3 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม เข้าระงับเหตุ

 

เมื่อไปถึงพบว่าพนักงาน 88 คน เป็นเมียนมา 60 คน คนไทย 28 คนบางส่วนได้วิ่งหนีตายออกจากโรงงานมานั่งอยู่บริเวณหน้าโรงงานริมถนนคู่ขนานถนนพระราม 2 เจ้าหน้าที่ได้สวมชุดป้องกันเข้าไปใช้สารเคมีควบคุมเพลิง และนำถังสารโซเดียมไฮโปรชัลไฟด์ ซึ่งเป็นต้นเพลิงออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ยังมีประกายไฟตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้น้ำดับได้ เนื่องจากเป็นสารเคมีที่เมื่อโดนน้ำจะยิ่งติดไฟ เจ้าหน้าที่จึงใช้สารเคมีเขาควบคุมจนประกายไฟสงบลง

โดยมีนายอรรถพันธุ์ สงวนเสริมศรี นายอำเภอเมืองสมุทรสงคราม, นายภราดล รุ่งโรจน์ธีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯสมุทรสงคราม, นายกิตติชัย ตันประเสริฐ นายก อบต.บางแก้ว, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานฯสมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ

 

นายสงคราม เกลื้อกูล หัวหน้าช่าง กล่าวว่า สารโซเดียมไฮโปรชัลไฟด์ ใช้สำหรับโรยพื้นฆ่าเชื้อ แต่จะไวต่อการกระแทก กระแทกไม่ได้ และ ไวต่อน้ำ โดนน้ำไม่ได้ จะเกิดประกายไฟ ก่อนเกิดเหตุขณะที่พนักงานกำลังใช้สารเคมีทำความสะอาด ถังสารโซเดียมไฮโปรชัลไฟด์ เกิดล้มกระแทกพื้นที่ให้เกิดประกายไฟ ลุกลาม ตนจึงรีบเข้าไปควบคุมแต่ไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากไปเริ่มลุกไหม้และมีกลิ่นรุนแรง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือ

 

นายกิตติชัย ตันประเสริฐ นายก อบต.บางแก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้โรงงานลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคนงานที่สูดดมสารเคมีเข้าไปหากในอนาคตเกิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โรงงานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบโรงงานแห่งนี้ว่ามีการขออนุญาตเก็บสารเคมีหรือไม่ หากไม่มีการขออนุญาตจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง