'สหภาพฯ รถไฟ' ลุยยื่นหนังสือถึง บิ๊กตู่-ศักดิ์สยาม จี้สั่งชะลอโครงการรถไฟทางคู่ 5 สัญญา
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม รายงานข่าวจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ระบุว่า สหภาพฯ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง จับตาโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 5 สัญญา “ส่อฮั้วประมูล” มีไอ้โม่งขาใหญ่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ??? โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากการติดตามการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) ทั้ง 3 สัญญา พบว่า การประมูลทั้ง 3 สัญญา มีข้อน่าสงสัยในเรื่องความโปร่งใส และน่าสังเกตว่าแต่ละสัญญามีผู้ซื้อซองจำนวนมาก แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียงสัญญาละ 2 รายเท่านั้น โดยสัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กม. ราคากลาง 26,599 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อซองประมูล 17 ราย แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียง 2 ราย ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,568 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 31 ล้านบาท คิดเป็น 1.12% ของราคากลาง
รายงานข่าว ระบุอีกว่า สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 132 กม. ราคากลาง 26,913 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อซองประมูล 18 ราย แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียง 2 ราย ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 26,900 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 13 ล้านบาท คิดเป็น 0.05% ของราคากลาง และสัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กม. ราคากลาง 19,406 ล้านบาท มีผู้สนใจซื้อซองประมูล 16 ราย แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียง 2 ราย ผลเสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 19,390 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณ 16 ล้านบาท คิดเป็น 0.08% ของราคากลาง
อย่างไรก็ตาม เอกสารการประมูลมีราคาถึงชุดละ 5 หมื่นบาท ย่อมเป็นเรื่องปกติที่ผู้ซื้อซองประมูลต้องมีเจตนาที่จะเข้าร่วมยื่นเสนอราคาประมูล แต่กลับมียื่นเสนอราคาเพียงสัญญาละ 2 ราย และเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางไม่มากนักจนเป็นที่น่าผิดสังเกต และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน โดยมูลค่าต่ำกว่าราคากลางแค่หลักไม่กี่สิบล้านบาท ซึ่งปกติไม่น่าจะเป็นไปได้เมื่อเปรียบเทียบกับการประมูลโครงการก่อสร้างอื่นๆ เท่าที่ สหภาพฯได้ติดตามมา
รายงานข่าว ระบุอีกว่า การดำเนินโครงการนี้ส่อไปในทางที่ไม่โปร่งใส เป็นการล๊อคสเปก ฮั้วประมูลหรือไม่ หรือว่ามีไอ้โม่งขาใหญ่คอยทำหน้าที่ซอยสัญญาแบ่งเค้ก จัดสรรผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง และหากมีการฮั้วประมูลกันจริง นี่คือความเสียหายของประเทศชาติ เพราะงบประมาณมาจากภาษีของประชาชน และจะส่งผลกระทบถึงการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทาง บ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่า 66,848 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้ จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายเรื่อง “การปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ” ทาง สหภาพฯจึงขอเรียกร้อง โดยได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สั่งการชะลอโครงการนี้ไปก่อน และตรวจสอบความไม่โปร่งใสของโครงการนี้โดยเร่งด่วน เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน