รีเซต

DSI ลุยสอบฮั้ว-นอมินี ใครเปิดประตูให้ความสูญเสียนี้เกิดขึ้น?

DSI ลุยสอบฮั้ว-นอมินี ใครเปิดประตูให้ความสูญเสียนี้เกิดขึ้น?
TNN ช่อง16
17 เมษายน 2568 ( 09:51 )
17

สัญญา 4 ฉบับ กับคำถามค้างคาใจ ใครต้องรับผิด เมื่ออาคารถล่มกลางกรุง?  

ภายใต้ซากปูน มีคำถามทางกฎหมายรอคำตอบ

การถล่มของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่ใช่แค่เหตุเศร้าสลดที่พรากชีวิตผู้คนในหลายครอบครัว หากยังเป็นปรากฏการณ์ทางกฎหมายครั้งสำคัญ ที่สะท้อนจุดเปราะบางของระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และโครงสร้างการควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างในประเทศไทย

สัญญาทั้ง 4 ฉบับ—ตั้งแต่ออกแบบ ควบคุมงาน เปลี่ยนแบบ ไปจนถึงก่อสร้าง—คือเส้นทางที่ควรจะรับประกันความมั่นคงปลอดภัยของอาคาร แต่ในกรณีตึกถล่มของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กลับกลายเป็น “จุดต้องสงสัย” ที่อาจซ่อนร่องรอยของความผิดพลาด ความหละหลวม หรือแม้แต่การกระทำโดยเจตนาให้เกิดประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังตรวจสอบในประเด็นใหญ่คือ การใช้นอมินีต่างชาติ และการฮั้วประมูลที่อาจเริ่มต้นจากกระดาษสัญญาเพียงฉบับเดียว แต่จบลงด้วยชีวิตหลายสิบชีวิตใต้ซากอาคาร

แม้อาคารจะถล่มลงมาเหมือนเป็นอุบัติเหตุจากโครงสร้างที่บกพร่อง แต่การที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเรื่องนี้ไว้เป็น “คดีพิเศษ” ใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ

  • การใช้ “นอมินี” หรือคนไทยเป็นตัวแทนแฝงให้คนต่างชาติทำธุรกิจ
  • และ “ฮั้วประมูล” หรือการตกลงล่วงหน้าระหว่างบริษัท เพื่อให้คนใดคนหนึ่งชนะการประมูลโดยไม่แข่งขันจริง

นั่นสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาอาจไม่ได้อยู่แค่เรื่องเหล็ก-ปูน-แบบแปลน

แต่อาจลึกถึงขั้น “ระบบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ” ว่ามีการเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม หรือมีการปลอมชื่อ บิดเบือนข้อมูล เพื่อให้บางบริษัทได้งานหรือเปล่า?

พูดง่าย ๆ คือ ตึกอาจไม่ได้พังเพราะวัสดุอย่างเดียว

แต่อาจพังเพราะ กระบวนการจัดจ้างที่ผิดตั้งแต่ต้นน้ำ

ไม่ว่าจะเป็นการตั้งบริษัทบังหน้าให้ต่างชาติเข้ามา?

หรือการจับมือกันฮั้วราคาก่อนยื่นซอง?

หากเรื่องนี้เป็นจริง ก็หมายความว่า การถล่มของอาคารนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องวิศวกรรมผิดพลาด แต่เป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดจากระบบที่บิดเบี้ยว — และนั่นคือสิ่งที่ DSI ต้องพิสูจน์ให้ได้

'นอมินี' คนไทยในนาม คนต่างชาติในเงา

หนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้ คือกิจการร่วมค้า ITD – China Railway No.10

ข้อสงสัยสำคัญคือ บริษัทที่อยู่ในกิจการร่วมค้า มีการใช้บุคคลสัญชาติไทยเป็นตัวแทนของนักลงทุนต่างชาติหรือไม่?

ถ้าใช่ นั่นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 36

ซึ่งห้ามบุคคลต่างชาติใช้ชื่อคนไทยบังหน้าเพื่อดำเนินธุรกิจในกิจการที่สงวนไว้สำหรับคนไทย

❝หากมีการพิสูจน์ได้ว่าบริษัทไทยที่ร่วมประมูล เป็นเพียงนอมินีของจีน

ก็หมายความว่า... การเข้าถึงโครงการก่อสร้างระดับพันล้านของรัฐนั้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ต้น❞


ฮั้วประมูล: เกมลวงราคา – ล็อกผู้รับงาน

นอกจากประเด็นนอมินี คดีพิเศษยังโยงถึง การเสนอราคาที่มิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “ฮั้วประมูล” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 7 และ 8

● มาตรา 7: ห้ามมิให้ผู้ใดตกลงร่วมกันเพื่อเอาเปรียบหน่วยงานรัฐ โดยทำให้เกิดราคาที่ไม่เป็นธรรม

● มาตรา 8: ห้ามผู้ร่วมเสนอราคากระทำการใด ๆ ที่ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับงานโดยไม่สุจริต

หากมีพฤติการณ์ร่วมกันของบริษัทหลายแห่ง เช่น สมยอมไม่เสนอราคาแข่งขัน หรือ เสนอราคาหลอก เพื่อให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งชนะการประมูล – จะถือว่าเป็นความผิดฐานฮั้วประมูล ซึ่งมีบทลงโทษทั้งจำคุกและปรับหนัก

เมื่อความรับผิดโยงถึง “เจ้าหน้าที่รัฐ”

ในขณะที่ DSI รับผิดชอบเฉพาะส่วนของ “เอกชน”

หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็น – เช่น

  • ละเลยไม่ตรวจสอบแบบก่อสร้าง
  • อนุมัติให้เปลี่ยนแบบโดยไม่ผ่านมาตรฐาน
  • ยอมให้แอบอ้างวิศวกรโดยไม่ตรวจสอบสถานะจริง

การดำเนินคดีจะเปลี่ยนมือไปอยู่ในเขตอำนาจของ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งดูแลความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561


ประเด็นทางกฎหมายที่ต้องติดตาม

  • มีการออกแบบ/เปลี่ยนแบบ โดยละเมิดหลักวิศวกรรม หรือไม่?
  • วิศวกรที่ถูกแอบอ้างชื่อ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไร? และใครอนุมัติให้ผ่านการควบคุมงาน?
  • ผู้ว่าจ้างภาครัฐ (สตง./หน่วยงานกลาง) มีระบบตรวจสอบคุณภาพและการควบคุมงานอย่างไร?
  • มีหลักฐานการสมยอมราคาหรือจัดฉากการประมูลในช่วงต้นของโครงการหรือไม่?
  • เจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการเซ็นรับรอง มีใครละเว้นหรือมีส่วนรู้เห็นหรือไม่?

จากสัญญาถึงความเชื่อมั่น

สัญญา 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเอกสารธุรกรรมของราชการ แต่เป็น ข้อตกลงที่ควรปกป้องชีวิตประชาชน

หากวันหนึ่งเกิดความสูญเสียมหาศาลจากการที่ไม่มีใครอ่านมันอย่างจริงจัง

หรือแย่กว่านั้น – มีผู้ร่วมมือกันเพื่อให้มัน “เป็นเพียงพิธีกรรม”

คำถาม “ใครต้องรับผิด?” คงไม่ควรมีแค่คำตอบเดียว

ความยุติธรรมในระบบกฎหมายไทย อาจใช้เวลา...

แต่ความเชื่อมั่นของสังคม จะรอได้นานแค่ไหน?

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง