สถาปัตยกรรมเวียดนามยุคใหม่ ปรับตัวต่อสภาพอากาศสุดขั้ว

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เปราะบางที่สุดต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีประชากรมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงพายุและน้ำท่วม ด้วยชายฝั่งยาวกว่า 2,000 กิโลเมตรและพื้นที่ลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ คาดว่าในปี 2100 พื้นที่หลายส่วนของดินแดนลุ่มแม่น้ำเมคองอาจจมอยู่ใต้น้ำ ในขณะเดียวกัน เมืองใหญ่ของเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านความหนาแน่นและความสูงของอาคาร แต่กลับมักละเลยปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ อาคารสมัยใหม่หลายแห่งมีผนังกระจกและระบบปรับอากาศที่ใช้พลังงานสูง ซึ่งหลายคนมองว่าไม่เหมาะสมกับภูมิอากาศร้อนชื้นแบบเขตร้อนของเวียดนาม
เพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ สถาปนิกรุ่นใหม่ในเวียดนามเริ่มทดลองแนวทางการออกแบบอาคารที่อิงภูมิปัญญาท้องถิ่นและสภาพภูมิอากาศ เช่น การระบายอากาศตามธรรมชาติ การลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และการใช้วัสดุท้องถิ่น อาคารในเมืองหนาแน่นจึงเริ่มมีลานกลางอาคาร ช่องสกายไลท์ และผนังเจาะรูที่ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดี ตัวอย่างเช่น อาคารในโฮจิมินห์ซิตี้ที่ใช้ผนังอิฐเจาะรูช่วยให้แสงและลมเข้าถึงภายใน ลดการพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ การติดตั้งบังแดด หลังคาระบายอากาศ และพื้นที่สีเขียวยังช่วยให้อาคารเย็นขึ้นโดยไม่ใช้พลังงานมาก
วัสดุและเทคนิคดั้งเดิมยังได้รับการฟื้นฟู เช่น อิฐกลวง ไม้ และไม้ไผ่ ซึ่งเป็นทรัพยากรหมุนเวียนที่มีอยู่มาก ตัวอย่างโครงการ Terra Cotta Studio ของ Tropical Space ในเวียดนามตอนกลาง เป็นเวิร์กช็อปทำเครื่องปั้นดินเผาที่สร้างด้วยอิฐเจาะรู เมื่อเกิดน้ำท่วม น้ำสามารถไหลผ่านโครงสร้างได้โดยไม่ทำความเสียหาย ผนังที่พรุนช่วยระบายอากาศและแสงธรรมชาติในช่วงเดือนร้อน
ในฮานอย สถาปนิก H&P ได้พัฒนาบ้านลอยไม้ไผ่สำหรับชุมชนที่เสี่ยงน้ำท่วมในลุ่มน้ำเมคอง บ้านเหล่านี้เป็นยูนิตโมดูลาร์น้ำหนักเบาที่ติดตั้งบนแพลอยน้ำ มีโครงสร้างไม้ไผ่เสริมแรง สามารถประกอบได้ภายในไม่กี่สัปดาห์และทนต่อน้ำหลายเมตร ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสามารถลดการใช้พลังงานได้เมื่อเทียบกับการก่อสร้างแบบเดิม
อย่างไรก็ตาม การนำแนวทางเหล่านี้มาใช้ในวงกว้างยังเผชิญอุปสรรคด้านกฎหมาย เนื่องจากไม้ไผ่ไม่ถูกยอมรับเป็นวัสดุก่อสร้างถาวร และไม่มีข้อกำหนดสำหรับการสร้างอาคารลอยน้ำ อีกทั้งที่ดินในเมืองมีราคาแพงและมีพื้นที่จำกัด ทำให้อาคารมักถูกสร้างเต็มพื้นที่ ส่งผลให้สูญเสียลานและช่องว่างที่ช่วยระบายอากาศและความร้อน
ประสบการณ์จากงานศึกษาท้องถิ่นชี้ให้เห็นว่า การผสมผสาน นวัตกรรมสมัยใหม่กับภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม สามารถสร้างอาคารที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศเขตร้อนของเวียดนามได้ เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนแทนอาคารสูงผนังกระจกและเครื่องปรับอากาศ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตในเมืองโดยไม่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
