อีสานโพล เผย กัญชาเสรี ทำคะแนนนิยม “ภูมิใจไทย” เพิ่มขึ้น 5%
ข่าววันนี้ 21 มิถุนายน 65 จากรายงานผลสำรวจของอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่อง “คนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี” โดยผลสำรวจพบว่า ครัวเรือนอีสานเกินครึ่งจะปลูกกัญชา ส่วนใหญ่จะกินและลองกินอาหารผสมกัญชา แต่ไม่แห่เสพกัญชา คาดอีกประมาณ 1 ปี ราคากัญชาจะลดลงทำให้การปลูกกัญชาได้กำไรไม่มาก และอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาความยากจน นอกจากนี้เกินครึ่งมีความกังวลมากถึงมากที่สุดเยาวชนจะบริโภคหรือเสพกัญชาจนเสียสุขภาพหรือการเรียน สนับสนุนห้ามขาย และบริโภคกัญชาในสถานที่ราชการ วัด โรงพยาบาล และสถานศึกษา เชื่อว่าการปลูกกัญชาเสรีอาจช่วยลดปัญหายาเสพติดพวกยาบ้า ยาอี ยาเค ได้บ้าง ข้อดี และข้อเสีย ของการปลูกกัญชาเสรียังก้ำกึ่งแต่ค่อนไปทางมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จำกัดปริมาณการปลูกต่อครัวเรือน และการผลักดันการปลูกกัญชาเสรีส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยในอีสานเพิ่มขึ้น
รศ. ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล กล่าวว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. 2565 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,105 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า “ครัวเรือนของท่านจะปลูกต้นกัญชาหรือไม่” พบว่า ร้อยละ 53.1 จะปลูก และร้อยละ 46.9 จะไม่ปลูก โดยกลุ่มที่จะปลูกแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 25.6 จะปลูก 1 – 5 ต้น ร้อยละ 14.7 จะปลูก 6 – 10 ต้น และ ร้อยละ 12.8 จะปลูกมากกว่า 10 ต้น แต่ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
“เมื่อสอบถามว่าท่านจะกินอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 73.2 จะมีการกินหรือลองกิน และ ร้อยละ 26.8 จะไม่กิน โดยกลุ่มที่จะกินหรือลองกินแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 33.2 อาจจะลองแค่ลองกินไม่กี่ครั้ง ร้อยละ 33.8 จะกินตามโอกาสต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 6.2 ที่จะกินบ่อยหรือกินเป็นประจำ เมื่อสอบถามต่อว่า ท่านจะเสพกัญชาหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 66.9 จะไม่เสพ และร้อยละ 33.1 จะเสพหรือลองเสพ โดยกลุ่มที่จะเสพหรือลองเสพแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 19.0 อาจจะลองแค่ลองเสพไม่กี่ครั้ง ร้อยละ 10.6 จะเสพตามโอกาสต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 3.5 ที่จะเสพบ่อยหรือเสพเป็นประจำ เมื่อสอบถามต่อว่า หลังจากนี้ประมาณ 1 ปี เมื่อประชาชนปลูกกัญชาเยอะขึ้น ราคากัญชา จะเป็นอย่างไรพบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.1 เห็นว่า ไม่ถูกไม่แพงปลูกแล้วยังพอมีกำไร รองลงมาร้อยละ 35.2 เห็นว่า พอๆ กับผักสวนครัวปลูกแล้วไม่ค่อยมีกำไร และมีเพียงร้อยละ 16.6 เห็นว่า ยังแพงมากปลูกแล้วได้กำไรสูง”
รศ.ดร.สุทิน กล่าวต่ออีกว่า การอนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ จะช่วยให้ประเทศลดปัญหาความยากจนได้หรือไม่นั้น พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 66.7 เห็นว่า ไม่ช่วยลดปัญหาความยากจนหรืออาจเพิ่มปัญหา ขณะที่ ร้อยละ 33.3 เห็นว่าจะช่วยลดปัญหาความยากจนเมื่อสอบถามต่อว่า กังวลว่าบุตรหลานของท่านหรือเยาวชนจะบริโภคหรือเสพกัญชาจนเสียสุขภาพหรือการเรียน หรือไม่อย่างไร” พบว่า เมื่อเรียงจากระดับความกังวล เป็นดังนี้ ร้อยละ 23.7 ตอบว่า กังวลมากที่สุด ร้อยละ 24.9 ตอบว่า กังวลมาก ร้อยละ 33.5 ตอบว่า กังวลปานกลาง ร้อยละ 12.4 ตอบว่า กังวลน้อย และมีเพียงร้อยละ 5.5 ที่กังวลน้อยที่สุดหรือไม่กังวลเลย