สธ.ออสซี่เผยนักเทนนิสตรวจเจอโควิด 2 ราย ฝ่ายจัดโต้ยังไม่มีนักกีฬาติดเชื้อ
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานความคืบหน้าล่าสุด การเตรียมความพร้อมก่อนหน้าการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่เมลเบิร์นปาร์ก ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะเปิดฉากในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรียเพิ่งยืนยันผลตรวจเชื้อ “โควิด-19” ของนักกีฬา สต๊าฟโค้ช และเจ้าหน้าที่่ ซึ่งเข้ากักตัวในพื้นที่ควบคุมที่ฝ่ายจัดการแข่งขันเตรียมไว้ ปรากฏว่า พบนักเทนนิสติดโควิดเพิ่ม 2 ราย เมื่อวันที่ 19 มกราคม
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายจัดพบผู้ติดเชื้อ 5 รายจาก 3 เที่ยวบินพิเศษที่รับนักกีฬา สต๊าฟโค้ช และเจ้าหน้าที่ไปยังประเทศออสเตรเลีย แต่เป็นครั้งแรกที่พบผู้ติดเชื้อเป็นนักกีฬา ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดก่อนหน้าการแข่งขันแล้ว 7 ราย
อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลาไล่เลี่ยกับที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรียออกแถลงการณ์พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว เคร็ก ไทลีย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน “ออสเตรเลียน โอเพ่น” กลับแถลงว่า ยังไม่พบนักกีฬาที่ผลตรวจเป็นบวก แม้ว่าขณะนี้จะมีนักเทนนิสที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงเนื่องจากโดยสารมาในเที่ยวบินเดียวกับผู้ติดเชื้อ จนต้องกักตัวมากถึง 72 รายก็ตาม สร้างคามสับสนให้สื่อและประชาชนทั่วไปอย่างมาก
ทั้งนี้ มาตรการการกักตัวก่อนหน้าการแข่งขันทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ฝั่งนักกีฬามองว่าเข้มงวดเกินไป ไม่สามารถออกไปซ้อมได้เต็มที่นัก ขณะที่ชาวเมืองเมลเบิร์นเองก็ห่วงว่าการเปิดให้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศรวมๆ แล้วราว 1,200 คน อาจจะนำเชื้อโควิดมาสู่ชุมชน ทั้งที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนบิล ชอร์ตเทน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของออสเตรเลีย ออกมาตำหนินักกีฬาว่า สถานการณ์โรคระบาดคร่าชีวิตคนหรือทำให้คนตกงานมากมาย แต่พวกนักกีฬาเอาแต่ใจกลับบ่นเพราะไม่พอใจเรื่องมาตรการกักตัว