สหรัฐฯ ทดลอง "วัคซีนโควิด-19" เฟสแรกได้ผลปลอดภัย

วันนี้( 15 ก.ค.63) ดร.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของรัฐบาลสหรัฐ แสดงความยินดีที่การพัฒนาวัคซีนระหว่างสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐและบริษัทโมเดอร์นา ก้าวหน้าไปอีกขั้น หลังการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอาสาสมัคร 45 คนพบว่า สามารถกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ดี 

นอกจากนี้ การทดลองยังไม่พบว่า มีผลข้างเคียงรุนแรงเกิดขึ้นกับกลุ่มตัวอย่าง มีเพียงอาการเหมือนเป็นไข้เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเหมือนกับการฉีดวัคซีนทั่วไป 

สำหรับการทดลองวัคซีนในคนครั้งสุดท้ายจะมีขึ้นในราววันที่ 27 ก.ค. โดยจะใช้ตัวอย่างในการทดลองราว 30,000 คน เพื่อชี้วัดว่าวัคซีนของโมเดอร์นา จะมีประสิทธิภาพหยุดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้จริงหรือไม่ 

ทั้งนี้ การใช้กลุ่มตัวอย่างมากถึง 30,000 คน นับเป็นการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในคนที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐเป็นผู้ที่สนับสนุนการพัฒนาวัคซีนของโมเดอร์นาเกือบ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเปิดทางให้โมเดอร์นาเป็นบริษัทแรกที่สามารถทดลองวัคซีนในกลุ่มคนจำนวนมากได้

สำหรับการทดลองเฟสแรกนั้นมีจุดประสงค์เพื่อพิสูจน์ความปลอดภัยของวัคซีนและช่วยให้ทีมวิจัยสามารถกำหนดปริมาณโดสที่เหมาะสม ส่วนเฟสที่ 2 เป็นการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครขนาดใหญ่ขึ้น และในเฟสที่ 3 จะทดลองกับประชากรจำนวนมากเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและระบุผลข้างเคียงที่พบได้ยาก

ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษและบริษัทแอสตรา เซเนกา ก็กำลังทดลองในคนอยู่ที่นครเซาเปาโล เมืองใหญ่สุดของบราซิล มีอาสาสมัครเข้าร่วมทดลองวัคซีน 2,000 คน นับเป็นหนึ่งในการทดลองวัคซีนในคนที่ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวนมากและยังเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้สำเร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กลับลำอีกรอบ! WHO ยอมรับโควิด-19 ติดต่อผ่านอากาศได้

WHOเปลี่ยนจุดยืนครั้งใหญ่! หน้ากากผ้า ป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ 

ผู้เชี่ยวชาญเตือน "โควิด" มีโอกาสแพร่เชื้อในอากาศ