รีเซต

เปิดตัวบริษัท Twenty One Capital เตรียมขึ้นแท่นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่อันดับสามของโลก

เปิดตัวบริษัท Twenty One Capital เตรียมขึ้นแท่นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่อันดับสามของโลก
TNN ช่อง16
27 เมษายน 2568 ( 15:22 )
14

การต่อสู้แย่งชิงการถือเหรียญ Bitcoin กำลังเป็นไปอย่างดุเดือด โดยล่าสุดมีการเปิดตัวบริษัทแห่งใหม่ชื่อ Twenty One Capital ก่อตั้งโดย แคนเตอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ (Cantor Fitzgerald), เทเธอร์ โฮลดิ้งส์ เอสเอ (Tether Holdings SA) และซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป (SoftBank Group) พร้อมประกาศการเข้าถือครอง Bitcoin ให้ได้มากกว่า 42,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 133,200 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ถือครองบิตคอยน์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters

ตามข้อมูลล่าสุดในเดือนเมษายน 2025 พบว่า 5 บริษัทที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลกได้แก่ 

1. บริษัท สเตรทจี (Strategy) จำนวน 538,200 BTC มูลค่าประมาณ 50.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.68 ล้านล้านบาท 

2. บริษัท มาราธอน ดิจิทัล โฮลดิงส์ (Marathon Digital Holdings) จำนวน 47,531 BTC มูลค่า 4.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 148,924 ล้านบาท

3. บริษัท ไรออท แพลตฟอร์มส์ (Riot Platforms) จำนวน 19,223 BTC มูลค่า 1.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 60,613 ล้านบาท

4. บริษัท คลีนสปาร์ก (CleanSpark) จำนวน 11,869 BTC มูลค่า 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 37,184 ล้านบาท 

5. บริษัท เทสลา (Tesla) จำนวน 11,509 BTC มูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 35,416 ล้านบาท 




ทั้งนี้ จำนวน Bitcoin ถูกโปรแกรมจำกัดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญตามโครงสร้างบล็อกเชน และเมื่อขุดเหรียญ (Mining) ครบจำนวนแล้วจะไม่สามารถสร้างใหม่หรือปลอมแปลงเหรียญ Bitcoin เพิ่มเติมได้ เนื่องจาก กลไกการตรวจสอบแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Validation) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่าของระบบเศรษฐกิจ Bitcoin ในระยะยาว

รายละเอียดการระดมทุน เทเธอร์ (Tether) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์จะสมทบทุน 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 53,632 ล้านบาท ในรูปแบบ Bitcoin ขณะที่บิทฟิเน็กซ์ (Bitfinex) ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนในเครือ จะร่วมลงทุนอีก 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 20,112 ล้านบาท และซอฟต์แบงก์จะร่วมลงทุนเพิ่มเติมอีก 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 30,168 ล้านบาท

แถลงการณ์ของบริษัท Twenty One Capital เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมาระบุว่า บริษัทจะถือหุ้นใหญ่โดยเทเธอร์และบิทฟิเน็กซ์ ส่วนซอฟต์แบงก์จะถือหุ้นส่วนน้อย โดยมี แจ็ค มัลเลอร์ส (Jack Mallers) ซีอีโอของ Strike รับหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งร่วมและซีอีโอของ Twenty One Capital โดยเขากล่าวว่า

"เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาชนะตลาด แต่เพื่อสร้างตลาดใหม่ หุ้นสาธารณะที่สร้างขึ้นโดยนักเล่น Bitcoin เพื่อนักเล่น Bitcoin"

สำหรับรูปแบบการลงทุนเชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของบริษัท Strategy (ชื่อเดิมคือ MicroStrategy) ของไมเคิล เซย์เลอร์ ที่ปัจจุบันสะสมบิตคอยน์มูลค่าราว 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,507,950 ล้านบาท ตามข้อมูลของสำนักข่าว Bloomberg 

ทั้งนี้ แคนเตอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์ บริษัทด้านบริการการเงินและอสังหาริมทรัพย์ นำโดยแบรนดอน ลัทนิค (Brandon Lutnick) บุตรชายของโฮเวิร์ด ลัทนิค (Howard Lutnick) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และมีบทบาทสำคัญในการถือครองทุนสำรองกระทรวงการคลังของเทเธอร์ (Tether) ในสัดส่วน 99% ตามรายงานของ PYMNTS เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

บริษัท Twenty One Capital ยังมีแผนระดมทุนเพิ่มเติมอีก 585 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 19,402 ล้านบาท ผ่านการออกหุ้นกู้แปลงสภาพและการระดมทุนด้วยหุ้น ขณะเดียวกันเตรียมจะควบรวมกับบริษัท SPAC ชื่อ Cantor Equity Partners โดยจะใช้สัญลักษณ์ “CEP” ของ NASDAQ ชั่วคราว ก่อนเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ “XXI” เมื่อการควบรวมเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งยังไม่ระบุชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนรายงานผลการดำเนินงานด้าน Bitcoin ต่อหุ้น (Bitcoin Per Share - BPS) และอัตราผลตอบแทนบิตคอยน์ (Bitcoin Rate of Return - BRR) เพื่อเพิ่มความโปร่งใสให้กับนักลงทุน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง